Mejibray Thailand

Hi...ยินดีต้อนรับพี่ๆ น้องๆ เพื่อนพ้องทุกท่านสู่ "บ้าน Mejibray Thailand"จ้า...บล๊อคนี้จะเป็นสรุป MejibrayTH's Mission ในแต่ละวัน จาก Facebook ของบ้านเรานะคะ ส่วนที่รวบรวมมาลงไว้จะเป็นแปล Tweet & Blog ของสมาชิกทั้งสี่คนจ้า **เราไม่ได้แปลทุกทวีตและทุกบล๊อคนะคะ เลือกมาที่น่าสนใจๆ โดยแปลมาจากต้นฉบับแปลจากญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษแล้วเรามาแปลไทยอีกต่อหนึ่งค่ะ** แต่ในส่วนของรูปจะไม่นำมาอับลงในนี้นะคะ ยังไงติดตามได้ที่ Facebook ของบ้านเราค๊า

Sunday, May 12, 2013

[Thai Trans] MESSIAH.bat obi Thai translation


MESSIAH.bat A-type obi translation

หากว่าผมจะกลายเป็นคุณได้สักครู่หนึ่งละก็นะ... ผมคงจะทำให้ในสมองของคุณสับสนปั่นป่วนให้หมด
และผมจะทำลายความทรงจำเกือบทุกอย่างในนั้น
ถ้าคุณทรมานเพราะความคิดหลายๆ อย่างของคุณเอง และถ้าผมสามารถจะทำสิ่งที่ยากจะเข้าใจนั้นได้...
แม้ว่าผมไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูด...
ผมหวังว่าคุณจะไม่ไปเปิดมัน คุณผู้ทนทุกข์เพราะสิ่งที่อยู่ในหัวของตัวเอง

Tsuzuku

English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand



MESSIAH.bat B-type obi translation

เพียงลำพัง... ในแจกันอันกว้างใหญ่ภายในหัว ที่ซึ่งน้ำได้แห้งเหือดไปหมดแล้ว
วันนี้ผมยังเฝ้ารอน้ำอยู่...
ครั้งหนึ่งคุณเคยบอกกับผมนี่ว่า

ฉันจะคอยเติมน้ำให้คุณเสมอ

มันไม่ใช่น้ำหรอกที่ผมกำลังเสาะหา ...ความจริงแล้ว “การเยียวยา” ต่างหาก ที่ผมต้องการ

Tsuzuku

English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand




MESSIAH.bat regular ed. obi translation

เธอจำวันที่เรา ..ต่างก็บาดเจ็บ โผหาอ้อมกอดของอีกฝ่าย
และหัวเราะราวกับว่าเป็นคำสาบานเลือด..ได้ไหม
ผมมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ที่ที่ผมอยู่ตอนนี้คือท้องฟ้า ..ส่วนที่มืดๆ ที่ตามองเห็นอยู่นั้นคือโลกใบนี้”
ผมรู้แล้วล่ะว่าจะคุยเรื่องอะไรต่อดี
ว่าแล้วก็กำมือ

เธอว่าข้างในนั้นมีอะไร.. คำตอบก็คือ..

ผมเอง

English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand


Tuesday, April 2, 2013

[Thai Trans] คอลัมน์ "Artist's Box" นิตยสาร SHOXX ฉบับที่ 240 [Edit]

คอลัมน์ "Artist's Box" นิตยสาร SHOXX ฉบับที่ 240





Original English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com/post/45906743885/tsuzukus-shoxx-column-3
Original Thai Translation by Art [Mejibray Thailand]


ฉบับนี้ทสึเล่าเรื่องความฝันให้ฟังกันค่ะ

-ความฝัน-
ผมคิดว่าพวกคุณที่กำลังอ่านอยู่คงเคยนอนหลับแล้วฝันกันทุกคน
แน่นอนว่ามันก็จะมีทั้งวันที่ฝันเรื่อยเปื่อย และบางวันก็ไม่ฝันอะไร

วันนี้ผมมีความฝันที่เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อนมาเล่าให้ฟังครับ ยังแจ่มชัดในความทรงจำอยู่เลย

ค่ำคืนดึกสงัดแสนมืดมิด
ผมนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง กางแขนสองข้างออกจนสุดเหมือนเทวดากำลังกางปีก
ผมง่วงจนแทบลืมตาไม่ขึ้น จู่ๆ ก็มีแสงแอลอีดีวาบผ่านเข้ามาในสมองจนผมรู้สึกปวดหัว
“------- ต่อง.. ------- ติ๊งต่อง.. ------- ติ๊งต่อง”
มีเสียงคล้ายๆ คนกดกริ่งหน้าประตูดังสนั่นขึ้นในห้องนั้น
ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูก มันดังก้องอยู่ในหูผมต่างหาก แล้วเสียงนั้นก็สะท้อนไปมาจนขึ้นสมอง
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าจนถึงตอนนี้ผมได้ยินเสียงนั่นกี่ครั้งแล้ว
ในหัวของผมเต็มไปด้วยเสียงประหลาดและแสงจ้าทิ่มแทงไปทั่ว
แต่ร่างกายของผมก็ยังไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
ผมทำได้แค่พุ่งความสนใจไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ในที่สุดเสียงกริ่งก็หยุดลง จากนั้นก็มีเสียงลมหายใจเข้ามาแทนที่
-ลมหายใจของผม-
-ชั่วกะพริบตา-
-ผมขยับได้แล้ว-
ผมค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง เอามือแตะหน้าผาก
-ร้อน-
-ร้อนนิดๆ แฮะ-
ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง ผมยืนขึ้น และในใจก็ไม่ได้รู้สึกกลัวคนที่มากดกริ่งเลย
-เพื่อน?-
-คนส่งของ?-
-หรือคนมาชวนเข้าลัทธิอีกแล้ว?- (ตรงนี้ผู้แปลภาษาอังกฤษใช้คำว่า Jehovah’s Witnesses  ซึ่งหมายถึงกลุ่มผู้นับถือคริสต์ที่แยกออกมาจากโปรเตสแตนต์อีกทีหนึ่ง เนื่องจากตีความพระคัมภีร์ต่างออกไป ภาษาไทยเรียกว่า กลุ่มพยานพระยะโฮวาห์ คิดว่าน่าจะหมายถึงกลุ่มเผยแผ่ศาสนาที่ชอบมาชวนคนเข้าลัทธิถึงหน้าประตูบ้าน ที่ญี่ปุ่นมีเยอะ – ผู้แปล)
-ถ้าเป็นอย่างนั้นก็สนุกสิ! วันนี้ผมก็จะได้รู้เรื่องพระคัมภีร์เพิ่มขึ้นอีกหน่อยแล้ว!-
ผมลากร่างที่หนักอึ้งไปที่ทางเข้า พยายามลากร่างไปให้ถึงประตู  พยายามฝืนสังขารเปิดประตู และพยายามพาตัวที่หนักอึ้งนี้ออกไปข้างนอก..
-พาร่างที่หนักอึ้งออกไปเพื่อ..-
-เปิดตู้รับจดหมาย!-
-ไม่มีอะไรอยู่ในนั้นซะหน่อย!-
และด้วยเหตุใดก็ตาม ผมมุ่งหน้าสู่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ ทันที

-นี่มันเป็นฝันที่แย่สุดๆ!-

ประโยคข้างบนผุดขึ้นพร้อมกับที่ผมชักจะรู้สึกวิงเวียนแล้วสิ
-ผมเดินเซ-
-ทัศนวิสัยเริ่มพร่ามัว-
และผมก็มาถึงร้านสะดวกซื้อจนได้
-ตะกร้า-
-เบียร์ 2 กระป๋อง-
-พาสต้าสด ซอสมะเขือเทศ ไก่อบ*-

-นี่มันเป็นฝันที่แย่สุดๆ!-

พาสต้าดูไม่น่ากินเลย ผมเลยไม่ชอบพาสต้าสดแล้ว โดยเฉพาะที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อมานี้ใจผมคงจะบอกไม่เอาเด็ดขาด
และก็เป็นอย่างที่คาดไว้ในความฝัน

-นี่มันเป็นฝันที่แย่สุดๆ!-

ผมลากร่างที่หนักอึ้งกลับบ้าน
-ในมือผมมีถุงใส่เบียร์อยู่สองกระป๋อง-
-พาสต้า ซอสมะเขือเทศ และไก่อบ*-

-นี่มันเป็นฝันที่แย่สุดๆ!-

[พาสต้า ซอสมะเขือเทศ กับไก่อบ* ที่อุ่นพร้อมรับประทานแล้ว]
-ผมตักใส่ปาก-
-แอ่ะ-
แน่ล่ะ ก็ผมไม่ชอบพาสต้าสดนี่
ผมไม่ทานอาหารจากร้านสะดวกซื้อ แม้ว่าจะเป็นพาสต้าธรรมดาๆ ก็เถอะ
เพราะว่าผมทำกินเองอร่อยกว่านะ
เพราะว่าพาสต้าเป็นสิ่งที่ผมถนัดเป็นพิเศษเลยล่ะ
และเพราะพาสต้าที่ผมทำจะใช้น้ำมันมะกอกที่เลือกมาอย่างพิถีพิถันเท่านั้น
-ผมจะกลบรสชาติมันด้วยบุหรี่ก็แล้วกัน-

-นี่มันเป็นฝันที่แย่สุดๆ!-

ผมล้างปากด้วยเบียร์ และหยิบไฟแช็กมาจุดบุหรี่
เปลวไฟลุกโชนขึ้น ควันพวยพุ่งม้วนเป็นเกลียว
-อร่อย-
-ผมชอบเห็นควัน-
-นี่มันเป็นฝันที่แย่สุดๆ!-
-ผมขอนอนอีกหน่อยดีกว่า-
-ตอนนี้ผมโคตรเหนื่อยเลย!-

“ร้อนอ่ะ”

ผมลืมตาขึ้น บุหรี่ที่ผมถืออยู่ลุกไหม้จนหมด ไฟเริ่มลามมาถึงนิ้วมือของผม
ข้างๆ ผมมีเบียร์วางอยู่ 2 กระป๋อง (เปิดแล้วกระป๋องนึง)
...และยังมีพาสต้าสด ซอสมะเขือเทศ และไก่อบ

-นี่มันเป็นฝันที่แย่สุดๆ!-
“ผมจะจำรายละเอียดไว้ให้หมด”
“ความจริงในความฝัน”
“ความฝันในความเป็นจริง”

-แม่งมันเป็นฝันที่แย่สุดๆ เลย!-

Tsuzuku

หมายเหตุผู้แปล
*เมนูอาหารคิดว่าแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายน่าจะหมายถึง สปาเกตตีซอสไก่ แต่ผู้แปลภาษาอังกฤษเขาเขียนแยกคำไว้ ทสึอาจจะเขียนแยกมาแบบนี้ เลยขอแปลตามคำศัพท์ไว้นะคะ


Thursday, February 21, 2013

[Thai Trans] Emily Type-B,C & Die Kusse Type B Obi Translation


EMILY B-type obi translation



「คุณรู้ไหม...ทำไมลูกอมถึงละลาย?」
“ทำไม?”
「คุณรู้ไหม...ทำไมท้องฟ้าจึงเป็นสีฟ้า?」
“ทำไม?”
「คุณรู้ไหม...ทำไมมนุษย์เราถึงรู้สึกเจ็บปวด?」
“ทำไม?”
「เฮ...เธอคนที่ฉันกำลังถามคำถามอยู่ในตอนนี้...เธอเป็นใคร?」
“ทำไม?”
-เธอเป็นตัวของเธอเอง...และสิ่งที่ฉันมองเห็นในเวลาที่ผ่านมาจะไม่เปลี่ยนชื่อปลอมๆ ของเธอ


--------------------------

EMILY regular edition obi translation

มองดูภาพวาดที่ถูกวาดทับลงไปบนรอยแผลเป็นของฉัน...วันนี้ฉันคิดถึงเธออีกแล้ว
ในยามที่ฉันลืมความเจ็บปวดและความหวัง...ฉันยังคงพบว่า...ตัวฉันเองยังคงหวังให้เธอวาดทับมันลงไปอีกครั้ง


นั่นเป็นจุดอ่อนของฉัน
「และความแข็งแกร่งของฉัน」

—Tsuzuku

** มีแค่รูป Type-B มาลงนะคะ เพราะเป็นรูปของแอดมินที่ส่งไปให้ผู้แปลเขาเองค่ะ


English Translation by  http://heresiarchy.tumblr.com
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

DIE KUSSE B-type obi translation



ฉันสงสัยว่า... "ฉันรักเธอ" นั้นเป็นสีอะไร?

「เธอ..ผู้ที่เดาว่ารักก็ต้องเป็นสีแดง เธอน่ะ..ดำเหมือนถ่านเลยแหละ ฉันเองก็ดำเหมือนถ่านเช่นกัน 」


English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com
Thai Translation by Mejibray Thailand

Wednesday, February 20, 2013

[Thai Trans] アヴァロン (Avalon) A-B-C type obi translation


アヴァロン A-type obi translation
ดอกไม้ดอกเล็กๆ มีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง
นี่มันไม่ใช่สิ่งที่คุณจะพบได้ทั่วไปนะ
เพราะว่า...คุณไม่มีวันเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขาได้หรอก

ถ้าคุณตกอยู่ในความเจ็บปวด  ลองมองไปที่ดอกไม้อย่างช้าๆ นะ
จะมีบางสิ่งที่สะดุดตาของคุณแน่ๆ
เพราะว่า...คุณอยู่บนเส้นทางที่คุณเหยียบย่างไปเสมอๆ

-----------------------



アヴァロン B-type obi translation
~EMILY’s diary~

เอาง่ายๆ…
ถ้าคุณอยากเป็นฝ่ายถูกรัก ก็...รักคนๆ นั้น
ถ้าคุณอยากเป็นฝ่ายถูกรัก ก็...รักตัวคุณเอง

จงมองหาความรักด้วย “ความเสน่หา” ที่เหนือกว่ารักนั้น

ผมอยากที่จะรักตัวเอง

เพราะว่า...ผมอยากจะได้รับความรักและความเสน่หาจากพวกคุณ


(Special Thank : Artto aka. Destiny สำหรับสแกนด้วยนะจ๊ะ)

-----------------------



アヴァロン C-type obi translation

ช่วยกรุณาสอนผมหน่อยเถอะ ว่าการจะเขียนเหตุผลสั้นๆ ในการต้องการใครสักนั้นเขียนอย่างไร
「นั่นเป็นเพราะผมรักคุณ」
ผมคิดว่า ผมรักคุณนะ
แต่...มันก็เหมือนกับว่ารักนั้นคืออะไร...
「นั่นเป็นเพราะผมรักคุณ」
ผมคิดว่า...ผมอยากทำให้คุณมีความสุข
แต่...มันก็เหมือนกับว่าความสุขคืออะไร...
「นั่นเป็นเพราะผมรักคุณ」
………

---------------------------

(Admin A/ อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วถ้าจะบอกว่า มึน..แอดมินจะไม่ว่าผู้อ่านเลยสักคำ เพราะ...คนแปลก็มึนจ้า สมกับที่ผู้แปลภาษาอังกฤษให้ฉายา Tsuzuku is the king of not making sense ไหมล่ะ  แต่ก็เอาเถอะ..ต่อให้อ่านแล้วมึนยังไง...พวกเราก็รักละเน้อ)

**มีแค่รูป Type B&C มาลงให้นะคะ เพราะว่าแอดมินส่งไปให้คนแปลเขาแค่นี้ ส่วน A คิดว่าจะเป็นของผู้แปลเขาค่ะ ก็เลยไม่มีรูปมาลงให้น๊า


English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com
Thai Translation by Mejibray Thailand

Tuesday, February 19, 2013

MejibrayTH's Mission 20130219


KOICHI’S BLOG 2013-02-18 22:21:25

Perfect mixed bathing.



การประชุมเรื่องคอสตูมและ PV เสร็จก่อนเวลา


ผมก็เลยโทรหา lol(ロル) แล้วก็เอาแอมป์ที่เสียตอน one-manที่ Sendai ไปส่งให้ทีมเทคนิคซ่อม (´・ω・`)


วันนี้ผมกลับถึงบ้านตรงเวลา ผมก็เลยได้นอนแช่น้ำสบายๆ (´・ω・`)


ตอนที่กำลังนอนแช่น้ำอยู่ Mozuku ก็วิ่งเข้ามาแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งมอง Koichiจากด้านบน (´・ω・`)


ผมถามว่าเมื่อไหร่ที่แอมป์จะเสร็จแล้วผมจะได้กลับมารับ เพราะผมต้องใช้มันสำหรับ one-man ที่ Nagoya (´・ω・`)


สำหรับการประชุมเรื่องชุดคอสตูมจบลงด้วยดีนะ สำหรับชุดคอสตูมใหม่ของผมก็เป็นอย่างที่ผมคิดไว้
ดูดีมากๆ แต่มันใส่ยากมากๆ ด้วยเช่นกัน รูปทรงและวัสดุที่ใช้ทำให้ใส่ยาก ผมคิดว่ามันจะไม่ไหวเอา ผมก็เลยบอกในส่วนที่จำเป็นต้องปรับไป


วันนี้ผมก็ได้ออกแบบในส่วนของทรงผมและการแต่งหน้าด้วยเช่นกัน ผมคิดว่าทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ทันการถ่ายภาพในช่วงสิ้นเดือนนี้


ดังนั้น...ผมคิดว่าพวกคุณจะตื่นเต้นมากมายที่ได้เห็นมัน  ตั้งตารอกันให้ดีนะ (´・ω・`)



แล้วเจอกัน (´・ω・`)e~


(ผู้แปลภาษาอังกฤษ / ส่วนใหญ่แล้วคำว่า "อาบน้ำรวม" (The mixed bathing) มักจะใช่่เวลาไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำสาธารณะแล้วอาบรวมชายกับหญิง แต่โคอิจิใช้คำนี้ในการอาบน้ำรวมกับแมวและเป็ดน้อย :3)


English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com
Thai Translation by Mejibray Thailand

Monday, February 11, 2013

MejibrayTH's Mission 20130211


meto’s blog:
*I done it



*……………..








*ชุดคอสตูม…










*ผมถอดมันออก…………………..



*……………………………….








*ผมเป็นหวัด…….

*ผมทำไปแล้ว….



(ผู้แปลภาษาอังกฤษ / จริงๆ แล้วเมโตะใช้คำว่า "ผมทำไปแล้ว"แต่ฉันคิดว่ามันฟังดูสยิวกิ้วในภาษาอังกฤษ เอางี้...ให้นึกถึงคำว่า "อุ๊บ..ผมทำไปแล้วง่ะ" แทนนะคะ xD)



English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

meto’s blog:

*actually……..


*มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ…………


*ผมเจาะมาเพิ่ม……………



*septum!!!!!!!!!!!




*จริงๆ นะ!!!!



English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

Thursday, February 7, 2013

[Thai Trans] คอลัมน์ "Artist's Box" นิตยสาร SHOXX ฉบับที่ 239


คอลัมน์ "Artist's Box" นิตยสาร SHOXX ฉบับที่ 239


Original English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com/post/42453967615/tsuzukus-shoxx-column-2
Original Thai Translation by Mejibray Thailand




ผู้แปลภาษาอังกฤษ / ครั้งนี้เขาเขียนเกี่ยวกับชีวิตและความตาย (เป็นการเขียนแบบเพ้อๆ เช่นเคย) และมีส่วนเชื่อมโยงกับเนื้อเพลง Avalon:)



MEJIBRAY・Tsuzuku’s
“Connective System” #2

-การมีชีวิตอยู่-

เป็นความแน่นอนที่แอบซ่อนความลึกลับไว้ตลอดกาล และถ้าคุณไม่ได้แสวงหาความเป็นนิรันดร์ บางสิ่งจะประทุอยู่ภายในตัวของคุณเองและมันจะทำให้คุณหายใจแทบไม่ออกเลยทีเดียว


นั่นไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าความตาย มันเป็นบางสิ่งที่แตกต่างออกไป


ถ้าให้ผมเป็นสีสักสีหนึ่ง สีนั่นก็คือ สีแดง
แต่ค่อนข้างเป็นสีแดงที่แตกต่างจากที่คุณคิด เป็นสีแดงออกเทาๆ


ก็ประมาณนั้นแหละ

ผมเขียนคำว่า "ความตาย" ในตอนต้น  แต่ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอย่างไร มันเป็นความลึกลับชั่วนิรันดร์ และถ้าคุณไม่ได้แสวงหาความเป็นนิรันดร์ บางสิ่งที่ประทุอยู่ภายในตัวคุณจะถูกปลดปล่อยออกมา และมันจะทำให้คุณหายใจแทบไม่ออกเลยทีเดียว

ไม่สำคัญหรอกว่าสิ่งนั่นจะเรียกว่าความตายหรือเปล่า มันก็คือความตายในอย่างหนึ่งนั่นแหละ แต่อาจจะไม่ใช่ความตายที่แท้จริง

เวลาที่ผมเขียนคำสองคำนี้ลงไป ผมคิดว่า...ผมเข้าใจมันนะ แต่ในโลกนี้ บางสิ่งที่เรียกว่า "ชีวิตและความตาย" เป็นความสับสนที่ขดเป็นเกลียวอยู่ในทุกๆ วัน (spiral of chaos)


พูดถึงความสับสน...ในตอนที่ผมเขียนโครงร่างต้นฉบับนี้อยู่ ภายในของผมก็กำลังสับสนอยู่เช่นกัน ก็เหมือนกับที่คุณกำลังอ่านในภาคสมบูรณ์ที่ถูกตีพิมพ์ลงใน SHOXX นี่แหละ คุณก็กำลังตกอยู่ในเกลียวแห่งความสับสนวุ่นวายเช่นกัน

มันอาจเป็นไปได้ที่โลกนี้ล้วนเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายอยู่ภายใน หรือมันอาจจะเป็นเพียงแค่ความฝันธรรมดาๆ ก็ได้นะ  ถ้าเป็นเช่นนั้น...สิ่งที่เรามองเห็นกันอยู่ในขณะนี้ก็เป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้นมานั่นแหละ และคนที่เราคิดว่าเป็นตัวเราก็อาจจะเป็นเพียงแค่คาแรคเตอร์ในโลกสมมุติเท่านั้นเอง...

แน่นอนเราจะไม่มีวันได้คำตอบหรอกว่าสิ่งนั้นมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และถึงแม้ว่าเราจะพยายามหาคำตอบ เราก็จะไม่มีวันได้คำตอบหรือเหตุผลของสิ่งนั้นหรอก

แต่บางทีคนเราก็จะมีเวลาแห่งความสุขโดยมองไปที่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ และก็เฝ้าครุ่นคิดว่า "ทำไมถึงเป็นแบบนั้นนะ?"

ภาษานั้นอาจจะถูกสร้างขึ้นด้วยความคิด เหมือนที่เราคิดอย่างเดียวกันกับดนตรีและศิลปะ ที่จริงแล้วสิ่งเหล่านี้ก็อยู่รอบๆ ตัวเรานั่นแหละ

ขอสรุปว่า...บางทีมันอาจจะมีความหมายก็ได้นะ ในการที่จะคิดถึงสิ่งที่ไม่มีความหมายอะไร ดังนั้นความเป็นจริงที่ว่า...การคิดถึงเรื่องของการมีชีวิตอยู่ มีความหมายประมาณคือ..จุดสุดยอดของการไม่มีความหมาย


“ภาษา” ถูกคิดค้นขึ้นมาหลังจากการสร้างประโยค และผลของมันก็ดึงความสับสนวุ่นวายให้หายไป


โลกของเรานี้ถูกฉาบไปด้วยความสับสนวุ่นวาย  ไม่ใช่สิ...โลกนี้คือความสับสนวุ่นวายต่างหาก


คำว่า "โลก" ก็อาจจะหมายถึงภาพลวงตา
คำว่า "ภาพลวงตา" ก็เช่นกัน...

มันไม่มีวันสิ้นสุดหรอก
มันสนุกตรงนั้นแหละ


อย่าไปกังวลกับสิ่งที่ผมคิด


แม้กระทั้งในเวลาที่เราพยายามจะทำความเข้าใจกับความคิดของคนบางคน เราอาจจะไม่มีวันเข้าใจพวกเขาได้อย่างลึกซึ้งหรอกไม่ว่าคุณกับเขาจะสนิทกันมากแค่ไหน  คุณไม่สามารถตัดสินพวกเขาได้จากความหมายของคำพูดบางคำหรอก

การบันทึกสิ่งที่ดีและไม่ดีถึงอะไรก็ตามมันไม่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม มันน่าสนใจนะที่ได้สังเกตุผู้คน

คนนั้นเป็นคนดี
คนนั้นเป็นคนชั่ว

คนที่ยอมให้คนอื่นทำในสิ่งที่แตกต่างอาจจะเป็นคนโง่ แต่มันก็สนุกนะที่ได้สังเกตุคนที่ตัดสินคนอื่นเช่นนั้น

การคิดเกี่ยวกับพวกเขาก็อาจจะเช่นกัน


เพราะคนเราเนี่ยเป็นอะไรที่น่ารังเกียจจริงๆ


คำว่า "น่ารังเกียจ" นั้นเป็นคำที่ผมคุ้นเคยกับมันดี

ในช่วงเวลาที่มีใครสักคนตายลงต่อหน้าคุณ
ไม่สิ...คือช่วงเวลาที่ชีวิตจะยุติลง
ไม่สิ...คือช่วงเวลาที่ลมหายใจหมดลง

คุณมองชีวิตและความตายอย่างไร?
คุณรู้สึกอย่างไรกับมัน?


ชอบ
ไม่ชอบ

รัก
เกลียด


“ทำไมพวกเราถึงมีชีวิตอยู่?”
-มีคนถาม-

ดูสิ... มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจ
การมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่น่าสนใจ
ภาษาเป็นสิ่งที่น่าสนใจ
ความคิดเป็นสิ่งที่น่าสนใจ


Tsuzuku


______

ผู้แปลภาษาอังกฤษ / ถ้าบางส่วนของบทความนี้ทำให้คุณไม่เข้าใจ  ไม่เป็นไรหรอก เพราะว่า Tsuzuku มักจะเขียนอะไรแบบไม่มีที่มาที่ไปเสมอ (วิธีการคิดของเขาก็แปลก)
อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนของเนื้อเพลง Avalon ที่เชื่อมโยงกับสิ่งที่เขาเขียนในครั้งนี้ ก็ติดตามกันนะ (จริงๆ แล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจเนื้อเพลงอย่างสมบูรณ์โดยไม่อ่านบทความนี้ก่อน!)

อีกเรื่องหนึ่ง... ฉันลืมที่จะบอกไปในตอนที่แปลบทความครั้งก่อนของเขา  ว่า Tsuzuku ลงท้ายชื่อของเขาด้วยอักษรฮิรางานะ (つづく)ซึ่งมีความหมายเดียวกันกับคำกริยาว่า "ต่อไป" (
ซึ่งในบางครั้งก็ใช้ "โปรดติดตามตอนต่อไป" ในเวลาที่ละครจบ  แต่ฉันขอใช้คำว่า Tsuzuku แล้วกันนะ  เพราะปกติแล้วไม่ค่อยจะเห็นใช้คำว่า "โปรดติดตามตอนต่อไป" ในงานเขียน
มันก็แค่คำลงท้ายอย่างแน่นอน เพราะไม่มีทางที่จะแปลเป็นอย่างอื่นไปได้ จริงๆ นะ หรือไม่ก็อาจจะประมาณว่า "คือ Tsuzuku" (to be Tsuzuku’d):’D

-----------------------

   

Special Thanks :: http://heresiarchy.tumblr.com
            :: Saki Dampire...For a perfect scan of SHOXX Vol.239 Artist's Box
             :: "Tan" My friend who's help me survive from some English slang.


Wednesday, February 6, 2013

Die Kusse's Day 20130206

(PV) MEJIBRAY - DIE KUSSE


Cr. GodZillA reverse


MEJIBRAY「AVENGE BLAZE CIRCUIT」TOUR FINAL AT SHINJUKU BLAZE

Cr. Chameleonyummy




1. Sadisgate
2. Black Baccarat
3. Chameleon Yummy
4. Divergence

.............................................

Please SUPPORT MEJIBRAY : Buy Original CD!


Tuesday, February 5, 2013

MEJIBRAY 『DIE KUSSE』VISULOG SPECIAL! INTERVIEW


MEJIBRAY ViSULOG SPECIAL! INTERVIEW



Interviewed by Yamamoto Takaya.
Source: http://visulog.jp/page/special/mejibray201302/index?m=twrt
English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com/post/42304180474/mejibray-visulog-special-interview
Thai Translation by Mejibray Thailand


―― บอกตรงๆ เลยนะ ผมเซอร์ไพร์มากกับภาพลักษณ์ของพวกคุณที่ออกมาในคราวนี้
Tsuzuku: นั่นเป็นเพราะว่าผมอยากใส่ไรเดอร์แจ็คเก็ตน่ะ  (หัวเราะ)
Koichi: พวกเรานำเสนอในสิ่งที่พวกเราคิดถึงเมื่อนึกถึงคำว่า "punk style" และนี่คือสิ่งที่ออกมา


――ทำไมถึงต้องเป็น “punk style”?
Tsuzuku: แรกเริ่มเลยนะครับ วงดนตรีที่ชื่อว่า “DIE KUSSE”จากหนังสือการ์ตูนของอาจารย์ Kusumoto Maki เรื่อง 「Kissxxxx」 นั้นเป็นวงพังค์
ผมก็เลยคิดว่า พวกเราน่าจะนำความเป็นพังค์ตรงนั้นมาใช้ด้วยเหมือนกัน ผมอยากจะเป็น Kanon (หัวเราะ)


――ผมคิดว่าคุณเป็นวงอื่นนะ (หัวเราะ).
Tsuzuku: นี่แหละที่ผมจะทำให้มันเกิดขึ้น (หัวเราะ) ใครจะไปรู้ว่านับจากนี้ไป Meto-kun จะกลายเป็นอะไร...


――ช่วยพูดถึง 「DIE KUSSE」หน่อยสิครับ  เพราะดูแล้วเพลงนี้มีส่วนผสมหลายๆ อย่างในเพลงเลยทีเดียว
MiA: เราขยายส่วนของเพลงออกไปเยอะมาก เพราะว่าเรายัดส่วนที่คิดว่าสำคัญลงไป แต่เป็นเพราะส่วนตรงนี้มันไม่ยาวและมันถูกเรียบเรียงไว้เป็นอย่างดี
「Avalon」 เป็นเพลงที่มีขอบเขตที่ค่อนข้างจะกว้างมาก ดังนั้นผมคิดว่าฐานของคนฟังก็กว้างไปด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น  มันจะเป็นเพลงที่แฟนๆ ไฮสคูลของพวกเราจะเอาไปแนะนำให้เพื่อนที่ไม่รู้จักเราได้ฟังได้
ดังนั้นสำหรับผมมันเป็นขั่นตอนของ "กระบวนการที่จะทำให้เด็กที่ไม่ได้เป็นแฟนของพวกเรากลายเป็นแฟนของพวกเรา"  ในทางตรงกันข้ามกับ 「DIE KUSSE」 ผมมีจุดมุ่งหมายที่จะให้เด็กที่รู้จัก MEJIBRAY
มาจาก  "กระบวนการที่จะทำให้เด็กที่ไม่ได้เป็นแฟนของพวกเรากลายเป็นแฟนของพวกเรา"  และ "ทำให้พวกเขากลายเป็นแฟนของเราอย่างสมบูรณ์" และซิงเกิ้ลนี้แหละที่จะฝั่งลงไปสู่ฐานของคนฟัง


――ผมคิดว่า 「DIE KUSSE」 มีความกว้างค่อนข้างมากภายในขอบเขตที่กำหนดไว้นะ
MiA: จริงเหรอ? 「DIE KUSSE」 มีส่วนของ shouting เช่นกัน  บางทีนะ เมื่อพูดกับพลังของสิ่งนั้น เราจะได้คำตอบที่ค่อนข้างจะแปลก
เพียงเพระว่าเราใส่ shouting ลงไป  ดังนั้นในแง่ที่ว่า 「Avalon」นั้นง่ายที่จะทำให้คนรุ้จัก MEJIBRAY ผมคิดว่าแฟนๆ จะชอบ 「DIE KUSSE」ด้วยเช่นกัน
ก็แต่ตั้งแต่ที่พวกเราเริ่มโลภอ่ะนะ พวกเราอยากครอบครองฐานของแฟนๆ ที่หลากหลาย (หัวเราะ)


――แล้วก็มีส่วนของอะคูสติกกีต้าร์ด้วยเช่นกันและยังในส่วนของเมโลดี้อีก ที่ทำให้ผมไม่รู้เลยว่าในท่อนถัดไปจะเป็นอย่างไร
MiA: ผลรวมของสิ่งที่พวกเราทำมาจนถึงตอนนี้ ผมหวังว่าเราจะสามารถแสดงส่วนหนึ่งของการก้าวไปข้างหน้าให้ทุกคนได้เห็นกัน
Tsuzuku: มันเป็นเพลงที่เต็มไปด้วย...สิ่งต่างๆ มากมาย (หัวเราะ)


――แล้วในส่วนของเนื้อร้องล่ะครับ? 
Tsuzuku: เกี่ยวกับการพยายามก้าวต่อไปกับรักครั้งใหม่ เมื่อรักที่ผ่านมาได้จบลง เป็นเรื่องที่ดูเหมือนว่า ที่ไหนกันนะที่ 「EMILY」จะก้าวเดินไป
แต่เนื่องจากมันเป็นแค่เริ่มต้น ไม่ใช่ว่าผมคิดเกี่ยวกับมันมากมายนะ  เนื้อร้องก็อย่างที่เขียนไป บางทีมันอาจจะเชื่อมโยงจากตรงนี้เป็นต้นไป หรือบางทีก็อาจจะไม่
และนั่นล่ะ...เป็นหน้าที่ของผมเสมอ ผมเขียนเพลงในแบบที่ผมอยากจะเขียน (หัวเราะ)


――แล้วชื่อ 「DIE KUSSE」ล่ะครับ? คำนี้แปลว่า “จูบ” ในภาษาเยอรมันใช่ไหม?” 
Tsuzuku: 「DIE KUSSE」 มันฟังดูเท่ดีนะ ผมก็เลยใช้มันน่ะ  ส่วนหนังสือการ์ตูน 「Kissxxxx」นั้นไม่มีส่วนเชื่อมโยงใดๆ กับเพลงนี้นะครับ


――Koichi-kun ตรงไหนที่คุณได้มีส่วนร่วมบ้างกับ 「DIE KUSSE」? 
Koichi: ก็เหมือนอย่างเคยครับ...คนที่ไม่ต้องคิดอะไรเลย
ทุกคน : Ahahaha.(หัวเราะพร้อมกัน)
Koichi: ในครั้งนี้เป็นการปลดปล่อยความต้องการของตัวเองอีกเช่นเคย เพียงแค่ตอนนี้ที่ผมบอกว่ามันไม่ดี แต่ด้วยแรงบรรดาลใจและเล่นโดยไม่ต้องคิดอะไรเลย ผมเล่นในแบบที่ผมต้องการจะเล่น


――สิ่งนั้นที่คุณเรียกว่าฉลาดใช่ไหม? (หัวเราะ) 
Koichi: มันไม่ใช่ความฉลาด มันคือ avant-garde (หัวเราะ) เหมือนกับว่า ถ้าผมไม่บอกในสิ่งที่ผมคิดออกมาตรงๆ  การแสดงของผมก็ไร้ความหมาย เพราะฉะนั้น ในครั้งนี้้จะเป็นของขวัญของแรงบรรดาลใจอีกด้วย


――จังหวะของกลองก็มีรายละเอียดเยอะมากๆ เช่นกัน
Meto: ………………………
Koichi: เขาพูดว่า...ก็ตั้งแต่ที่มีหลายๆ คนบอกเขาว่ากลองนั้นดีนะ แต่พวกมันต่างกันนะ  เขาหวังว่าเขาจะสามารถสร้างจังหวะใหม่ๆ อย่างที่เขามุ่งหวังไว้ได้ และเขาก็อยากจะร้องเพลงเช่นกัน


――ในครั้งนี้คุณได้มีส่วนร่วมในรายละเอียดตรงนั้นเช่นกันใช่ไหมครับ?
Meto: ………………………
Koichi: ตอนที่ทำเดโมพวกเขาทำซาวน์ออกมาได้ยุ่งเหยิงมากและมันดูเหมือนว่าพวกนั้นทำให้เขาหลับในระหว่างที่เขากำลังฟังอยู่


――แล้ว MiA-kun ล่ะ? ในส่วนของกีต้าร์โซโล่มันค่อนข้างบ้าคลั่งมากทีเดียว! 
MiA: ช่องว่างระหว่างนิ้วหัวแม่โป้งกับนิ้วกลางของผมนั้นกว้าง ดังนั้นในระหว่างที่เล่นอยู่ผมก็สามารถปล่อยออกไปหมดได้เลย
ถึงแม้ว่าที่ผ่านมา ในสตูดิโอผมพยายามที่จะจับให้มันอยู่ด้วยกันเป็นครั้งแรกและ...มันเจ็บมาก (หัวเราะ) ครึ่งหลังของซาวน์ดเลยเหมือนกับเอานิ้ว tapping แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
มันคือผมที่กำลังจะบ้ากับปิ๊กและเล่นกีต้าร์ไปพร้อมกับการ tapping มันก็เลยค่อนข้างเร็วนรก


――มีส่วนไหนของ 「DIE KUSSE」 ที่มาจากพวกคุณไหม?
Tsuzuku: That’s what I’m prone to.
Koichi: ตรีมของ MV คือ  “dual nature” และนั่นทำให้ผมค้นพบบางสิ่งที่ผมอยากทำมาตลอด ดังนั้น...ผมอยากให้คุณได้เห็น “Alien Koichi” ที่จะมาบุกโลก
เรื่องราวที่ผมสร้างขึ้นมาสำหรับตัวผมเองคือ “Alien Koichi” ที่จะมาขโมยหัวใจและคุณต้องระวังตัว อย่าให้เขาขโมยหัวใจคุณไปได้ (หัวเราะ)
(ผู้แปลภาษาอังกฤษ : เขาใช้คำเรียกเอเลี่ยนว่า Koichian ประมาณว่าเป็นเอเลี่ยนจากดาวที่มีชื่อว่า Koichiแต่ฉันก็ไม่รู้นะมันฟังดูแปลกๆ)


――ทำไมจึงเป็นตรีม “dual nature”ช่วยอธิบายหน่อยสินครับ? 
Tsuzuku: พอขั่นตอนต่างๆ ของ 「DIE KUSSE」เสร็จสิ้นและสามารถเปิดเผยได้ ทุกอย่างจะชัดเจนเองว่าทำไมต้องเป็น “dual nature”


――ฉากจูบในตอนจบนั้นน่าประทับใจมากๆ ใช่ไหมครับ 
Meto: ………………………
Koichi: เขาบอกว่า อยากให้คุณรอดูฉากที่เขาร้องเพลงอย่างตั้งอกตั้งใจเช่นกันนะ
Tsuzuku: ในนั้นควรจะมีฉากจูบกับ Meto เหมือนกันนะ แต่เนื่องจากลุคของเขาน่ากลัวเกินไป...
ทุกคน : Ahahaha.(หัวเราะโดยพร้อมเพรียงกัน)
Tsuzuku: ผมเองแหละครับที่เดาผิดไป แต่ผมคิดว่า Meto ควรจะดูน่ารักเหมือนกับเด็กผู้หญิงพังค์ๆ และเราก็ได้คุยกันด้วยว่าจะถ่ายฉากที่ผมจูบ Meto และคุกเข่าลงไป
แต่..ความน่ากลัวแบบนั้นไม่สามารถทำให้ผมทรุดลงไปได้หรอก...(หัวเราะ)
Meto: ………………………
Koichi: เขาบอกว่า เขาคิดว่าแบบนี้น่ารักนะ
Tsuzuku: ไอ้คำว่า “น่ารัก” ของนายน่ะ มันตรงกันข้ามกับของฉันน่ะสิ (หัวเราะ)  อาจจะน่ารักนะแต่ว่า...


――เสียงคอรัสในช่วงอินโทรเป็นผู้หญิงใช่ไหมครับ? 
Tsuzuku: ใช่ครับ นั่นไม่ใช่ Meto
MiA: ส่วนนั้นถูกบันทึกเสียงที่กรีซครับ


――กรีซ? 
MiA: พวกเรามีเพื่อนอยู่ที่กรีซ (SOPHIA ex.BLOOD STAIN CHILD) เป็นคนที่เราส่งข้อมูลไปให้แล้วก็บอกกับเธอว่า "ร้องซะ" แล้วเธอก็บันทึกเสียงที่กรีซแล้วส่งกลับมาให้เรา
Tsuzuku: ดูเหมือนว่าที่โน้นจะมีความชื้นที่ต่างไปนะ (หัวเราะ) ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเสียงสูงมันแห้งๆ แบบกรีซ (หัวเราะ)


――สำหรับเพลง 「VIOLET」เนื้อร้องนี่น่าสนใจมากๆ
Tsuzuku: ผมก็แค่เขียนเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในหัวผม ดังนั้นผมก็เลยไม่มีปัญหากับมันและผมเขียนมันอย่างราบรื่นรวดเดียวจบ เวลาที่ผมเขียนสิ่งที่อยู่ในหัวออกมา
มันจะมีอยู่สองรูปแบบ: อย่างแรกการเขียนจากประสบการณ์ในอดีตของผมอย่าง 「VIOLET」 อย่างที่สอง ผมเขียนจากสิ่งที่ผมกำลังคิดอยู่
แต่การเขียนในสิ่งที่ผมกำลังคิดอยู่นั้นมันง่ายกว่าและมันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับในเวลาที่ผมเขียนต้นฉบับสำหรับคอลัมน์แปลกๆ ของผมนั่นแหละ


――ผมคิดว่ามีประเภทของเนื้อเพลงบางแบบที่จริงๆ แล้วทำให้คุณคิด 
Tsuzuku: หลังจาก one-man tour ผมมีเรื่องยุ่งยากสารพัด ผมก็เลยเขียนแบบที่ไม่คิดเลย


――ถูกเรียบเรียงโดย  MiA-kun ใช่ไหมครับ?
MiA:  เรามี 「Black baccarat」และ 「Invisible Tower maker」 และเพลงนี้ที่เหมือนกับเป็นภาคสามของทั้งหมด
ทุกคนชอบเพลงที่มีเมโลดี้ที่ชัดเจนและจะทำให้คุณติดหู ดังนั้น..ผมก็เลยทำมันขึ้นมาโดยมีสิ่งนี้อยู่ในใจตลอดเวลา นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากจะสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นรูปแบบของ MEJIBRAY
Koichi:  เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมเล่นโดยไม่ต้องคิด (หัวเราะ) แรกเลยผมก็กดลงไปบนสายเหมือนกับ "อย่างนี้สิ, อย่างนี้สิ, อย่างนี้สิ" หลังจากนั้นก็ตบลงไปเหมือนกับ "หรือว่าตรงนี้?"
Tsuzuku: 「D.E.INCUBUS」 ก็เหมือนกัน (หัวเราะ).
Koichi:  ถ้าฉันสามารถมองเห็นการเคลือนไหวของตัวเองได้อ่ะนะ ฉันสามารถก๊อบปี้มันได้ดีกว่าแค่ได้ฟังมันซะอีก
Tsuzuku:  ฉันช่วยไม่ได้ แต่...รอดูบทสัมภาษณ์เรื่องราวส่วนตัวของ Koichiแบบเจาะลึกกันนะครับ (หัวเราะ)
Meto: ………………………
Koichi:  เขาบอกว่า เพราะมันเป็นเพลงซึ่งมีอารมณ์เป็นส่วนสำคัญ เขาวางความสำคัญไว้กับอารมณ์ตรงนั้นนะ  และเขาก็บอกว่าตอนที่มันวางอยู่ในแนวเดียวกับ
「Black baccarat」และ 「Invisible Tower maker」 เขาไม่อยากให้มันดูเหมือนกับเป็นเพลงเดียวกัน  ดังนั้นเขาก็เลยสงสัยว่าจะทำให้มันดีขึ้นและแตกต่างกันได้อย่างไร


――「WANT」 มีกลิ่นอายแบบเดียวกันเป๊ะกับอิมเมจที่ออกมาในขณะนี้ใช่ไหมครับ?  
Tsuzuku:  ครับ...ใช่แล้วล่ะ เพราะว่าเราก็อยากจะทำเพลงพังค์บ้างเหมือนกันนะ


――คุณยังมีเพลงแบบอื่นอีกไหม? 
Tsuzuku:  เรามี 「Chameleon YUMMY」ที่รวมอยู่ในอัลบั้มซึ่งดูแล้วจะเป็น heavy versionของมัน ผมคิดว่าเพลงนี้เป็นประเภท Koichi “เล่นโดยไม่ต้องคิด” อย่างมาก
Koichi:  ใครก็บอกฉันอย่างนั้นแหละ (หัวเราะ) และสำหรับเสียงร้องคอรัสของเพลง “WANT” เรารวบรวมเพื่อนๆ ของพวกเรามาและทั้ง 30 คนร้องเพลงนี้ให้พวกเรา
Tsuzuku: ในขณะที่แก้ผ้าด้วย…
ทุกคน:  Ahahaha.(ทุกคนฮากลิ้ง)


――มันเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากนะ คน 30 คน มารวมร้องเพลงในขณะที่แก้ผ้าเนี่ย (หัวเราะ).
Koichi:  มีคนที่แก้ผ้าจริงๆ นะ แต่ไม่ใช่ทุกคน (หัวเราะ). สำหรับสิ่งนี้บรรยากาศเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าการสร้างคีย์ของเพลงนะ  ดังนั้นประตูของสตูดิโอก็เลยเปิดกว้างไว้ตลอดและเราอัดเสียงกันแบบรวดเดียวเสร็จ
Tsuzuku:  เป็นเรื่องที่ดีนะ ที่เราสามารถบันทึกบรรยากาศตรงนั้นไว้ได้ ส่วนของเสียงร้องก็เช่นกันการร้องแบบรวดเดียวจบแต่มันทำให้ผมค่อนข้างเหนื่อย แต่ผมคิดว่ามันจะต้องสนุกเมื่อถึงเวลาแสดงสด
MiA:  การบันทึกเสียงของคุณคนล้วนแล้วแต่เป็นแบบรวดเดียวจบและการทำแบบนี้ถ้ามีใครสักคนทำผิดพลาดในช่วงกลาง เราก็จะเริ่มมันใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ตอนต้น
(Admin A / การร้องแบบรวดเดียวจบคือการอัดเสียงร้องแบบไม่มีเทค ถ้ามีส่วนไหนพลาดหรือคนไหนพลาดก็คือต้องเริ่มร้องตั้งแต่ต้นใหม่ จะไม่มีการตัดต่อเสียงเพื่อเอาเสียงที่สมบูรณ์มาแก้ส่วนที่บกพร่อง)


――ช่วยกรุณาเล่าเกี่ยวกับเนื้อเพลงหน่อยสิครับ
Tsuzuku:  มันก็เป็นอย่างที่เขียนใส่ลงไปครับ เพลงนี้เป็นเพลงเกี่ยวกับ "การถูกขโมยความรัก"


――ในส่วนกีต้าร์มีส่วนคล้ายหรือว่าแตกต่างจากทั้งสองเพลงแรกมากไหมครับ
MiA:  สำหรับเพลงนี้..ผมเล่นด้วยความเร็วมากๆ เลยครับ


――ในกรณีนี้ ผมคิดว่าผมคงจะต้องถาม  Koichi-kun เช่นกัน 
Koichi:  Nah…, ผมก็เล่นไปโดยที่ไม่ต้องคิดอีกนั่นแหละ (หัวเราะ) ผมตั้งใจเล่นในแบบ avant-garde punk
ทุกคน :  Ahahaha.(หัวเราะโดยพร้อมเพียงกัน)
Koichi:  เพลงนี้นะครับ ส่วนของเบสเราใช้เบสที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าเยี่ยมยอดที่สุดในญี่ปุ่น นั่นคือ「Rickenbacker」
Tsuzuku:  ดีที่สุดในญี่ปุ่นในความคิดของ Koichiนายจะหมายความแบบนี้ใช่ไหม?
Koichi:  ฉันคิดว่ามันเจ๋งที่สุดในญี่ปุ่นและตอนที่ฉันเห็นตัวเองสะพายมันอยู่จากกระจกเนี่ยนะ ฉันรู้สึกว่า "สิ่งที่เห็นอยู่เนี่ยใช้ได้เลยนะ" (หัวเราะ)
Tsuzuku:  นายบอกว่า "เยี่ยมยอดที่สุดในญี่ปุ่น" แต่..ไอ้เจ้าเนี่ยมันไม่ใช่เบสของญี่ปุ่นนะ
ทุกคน :  Ahahaha.(ปล่อยก๊ากหงายเงิบโดยพร้อมเพรียงกัน)
Koichi:  ถูกต้องนะคร๊าบบบบ (หัวเราะ).


――แล้ว Meto-kun ล่ะ ? 
Meto: ………………………
Koichi:  ในฐานะที่เป็นมือกลองที่อยากจะร้องเพลง แต่...ทำไม่ได้  เขาไม่ชอบมันเลย


――ถึงแม้ว่ามันจะเป็นพังค์ แต่ก็ยังมีส่วนที่ทำให้จำได้ว่าเป็น Mejibray  
Tsuzuku:  ในช่วงกลางตรงนั้นเป็นส่วนผสมของอารมณ์ และตรงนั้นแหละที่ทำให้จำได้


――ยังมีอะไรอีกไหมที่คุณอยากจะใส่ลงไปในซิงเกิ้ลนี้?
Tsuzuku:  พูดคำนี้ avant-garde (หัวเราะ).
Koichi:  เพราะว่าพวกเรามีสิทธิ์ในการจะกระจาย avant-garde ออกไปทุกๆ วัน  ผมหวังว่าคุณจะยังคงจับตาดูนับจากนี้ต่อไป
Meto: ………………………
Koichi:  เขาพูดว่า ในความคิดเขาส่วนของการมิกซ์ก็แตกต่างจากที่เคยทำมาเช่นกันนะครับ และเขาอยากให้คุณฟังมันดีๆ และกรุณาจดไว้เลยนะเพราะตรงนี้สำคัญมาก
อย่าให้ “Alien Koichi” เอาฟันกราม (molars) ของคุณไปด้วยไม่ใช่เพียงแค่หัวใจของคุณนะ


――ทำไมถึงต้องเป็นฟันกราม?
Tsuzuku:  เพราะฟันกรามซี่ที่ 3 (wisdom teeth)ก็แค่ปวดใช่ไหม?
(ผู้แปลภาษาอังกฤษ: ในขณะที่ฟันกรามซี่ที่ 3 ปวดแต่คุณไม่ต้องมีมันก็ได้ แต่ฟันที่คุณต้องดูแลรักษาคือ ฟันกรามสำหรับบดเคี้ยว (molars)
ทุกคน:  Ahahaha.(ขำ..หงายเงิบยกวง)


――การแสดงสดของ MEJIBRAY มีเอกลักษณ์ที่ทุกคนต่างจดจำได้ พวกคุณสร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร? 
Meto: ………………………
Koichi:  เขาพูดว่า...มันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
Tsuzuku:  มันไม่ใช่ว่าพวกเราทำได้ตามแพลนที่วางไว้ ในตอนเริ่มแรกน่ะ มีความต่างตรงที่ Meto ขึ้นมาบนเวทีด้วยเก้าอี้วิลแชร์และนั่นแหละที่ทำให้กลายเป็นอิมเมจของเรา
มันไม่ใช่เราพูดเจาะจงว่า "พวกเราอยากทำแบบนี้" แต่ในเวลาที่พวกเรา 4 คนยืนอยู่บนเวทีพวกเรากลายเป็นหนึ่งเดียวด้วยชื่อ MEJIBRAY ที่ทุกคนรู้จัก โดยไม่คำนึงถึงสถานที่หรือว่า setlist


――พวกคุณประกาศออกมาแล้วถึงทัวร์ที่จะมีขึ้นถึง 2 ทัวร์ด้วยกัน คุณคิดว่ามันจะเป็นอย่างไร?
Meto: ………………………
Koichi:  เขาพูดว่า...ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี
Meto: ………………………
Koichi:  เขาพูดว่า พวกเราควรที่จะพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อมาตรฐานสำหรับไลฟ์ที่ดียิ่งขึ้น
MiA:  เราอยากจะทำให้ทัวร์ของเราเป็นทัวร์ที่ทำให้คุณรู้สึกว่า อยากที่จะมาดูไลฟ์ครั้งหน้าของเราอีกน่ะครับ
Koichi:  ทัวร์ที่จะไม่ทำให้พวกคุณเสียใจเลยที่มา


――อะไรเป็นสาเหตุให้คุณเปลี่ยนชื่อทัวร์?
Tsuzuku:  เพราะมันจะมีบางสิ่งเกิดขึ้น...ใช่ไหม...
Koichi:  ก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับ MEJIBRAY มาโดยตลอด ดังนั้น...โปรดรอคอยมันนะ


_______________________
(ผู้แปลภาษาอังกฤษ / ……ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย!  ฉากจูบบ้าอะไรนั่นที่พวกเขาพูดถึงกัน?? ฉันไม่เห็นมันสักนิดจากคลิปมืดทะมึนของ DIE KUSSE PV เดาว่าพวกเราคงจะต้องรอีกวันหรือสองวันล่ะนะ)


Special Thank: http://heresiarchy.tumblr.com Thank you so...so much for your hard work. xoxo

Wednesday, January 30, 2013

MejibrayTH's Mission 20130130

Tsuzuku's tweet:


Tsuzuku: ตราบใดที่คุณยังมีชีวิต แน่นอนว่า..คุณจะได้พบกับบางสิ่ง ถ้าคุณไม่มีชีวิตแล้ว คุณก็จะไม่รับรู้สิ่งใดๆ  ไม่มีความสุข ไม่มีความทุกข์ ไม่ต้องเจ็บปวด

Tsuzuku: หากมีบางสิ่งบางอย่างที่คุณสามารถระบายมันออกมาได้ คุณก็ควรทำใช่ไหมล่ะ? เพราะคำพูดนั้นที่คุณไม่ยอมพูดมันออกมาจะเฝ้าตามหลอกหลอนคุณไปตลอดกาล
มันอาจจะไม่ง่ายนัก แต่ถ้าคุณไม่พูดมันออกมา คุณจะเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น  การมีชีวิตอยู่น่ะ มันคือการที่เราจะผ่านปัญหามากมาย จะไม่มีความเจ็บปวดหากว่าเราแข็งแกร่งมากพอตั้งแต่ก้าวแรก
ไม่สำคัญหรอกว่ามันจะเล็กมากแค่ไหน  เพราะตั้งแต่ก้าวแรกเล็กๆ ก้าวนั้นมันก็ยากแล้ว

Tsuzuku: แต่ผมสงสัยว่าถ้าหากการมีความทุกข์นั้นหายไปเป็นสิ่งที่ไม่ดีจริงๆ  เพราะว่า...เรายังมีชีวิตอยู่และนั่นเป็นความเจ็บปวด ดังนั้น...การได้รู้สึกเจ็บปวดบ้าง เป็นทุกข์บ้าง
มันก็น่าจะเป็นความสุขอย่างหนึ่งนะ...ใช่ไหม? เพราะว่า...มันไม่ใช่เพียงแค่พวกเราอยู่ที่นี่เพียงเพื่อจะอาศัยอยู่

Tsuzuku: มันเยี่ยมนะที่ได้คิดเกี่ยวกับ [ความหมายของการมีชีวิตอยู่คืออะไร?] คุณจะไม่มีวันได้คำตอบหรอก แต่การใช้ได้สมองของคุณแบบนี้ พยายามที่จะทำความเข้าใจกับความหมายของการดำรงอยู่ของคุณเอง
นั่นอาจจะเป็นความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่  และนั่นเป็นอะไรที่เยี่ยมมาก นี่แหละ...มนุษย์

Tsuzuku: ผมหวังว่าเวลาที่เหมาะสมจะมาถึงในยามที่ผมสามารถเผชิญหน้ากับเวลาในทุกๆ วันด้วยรอยยิ้ม  ผมหวังว่าเวลาที่เหมาะสมจะมาถึงในยามที่ผมสามารถดึงความเจ็บปวดและความยุ่งยากต่างๆ ออกไปด้วยรอยยิ้ม
ผมคิดถึงสิ่งเหล่านี้ทุกวัน ...✡ขอให้ที่นั่นมีแสงนำทางสำหรับทุกๆ คน

Tsuzuku: โอเคๆ อย่าเครียดไป!!!! ฟังนะ ทุกๆ คน...「ชีวิต!!!」 ทำมันให้ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ เพราะว่ามันเพียงพอแล้วกับการจะก้าวไปสู่อาณาจักรชีวิตของคุณเอง


English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

Thursday, January 17, 2013

Happy Birthday to me+0




---------------------------------------------

Meto’s blog:

☆*happy birthday☆

*ตอนนี้...ผมเข้าใกล้การเป็นมนุษย์ไปอีกหนึ่งก้าวแล้ว


*ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกข้อความ!!!

*ผมมีความสุขมาก!!



*me+0 ไม่ชอบ...มนุษย์...


*ด้วยเหตุนั้นแหละ...ผมถึงเป็นตุ๊กตา...


*ด้วยเหตุนั้นแหละ...ผมถึงพูดไม่ได้


*ขอโทษนะ…

*แต่...รอก่อน


*ต่อไปผมก็จะ..19.!!


*ผมจะรอนะ!!


English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

Wednesday, January 16, 2013

[Thai Trans] Tsuzuku's column at Shoxx Vol.238


TSUZUKU’S SHOXX COLUMN #1

Original English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com/post/40672846895/tsuzukus-shoxx-column-1
Original Thai Translation by Mejibray Thailand


(ผู้แปลภาษาอังกฤษ / ไม่ประหลาดใจเลยกับการเขียนบทความครั้งแรกของ Tsuzuku เพราะเขาเขียนเกี่ยวกับ S&M…)


MEJIBRAY・Tsuzuku’s “Connective System” #1


ยินดีที่ได้พบกันทุกๆ คนนะครับ
ผม Tsuzuku จากวง MEJIBRAY ผมดีใจมากๆ ที่ฝันของผมในการที่จะได้มีคอลัมน์เป็นของตัวเองเป็นจริง
ผมมักจะถูกชมอยู่เสมอๆ  ตอนที่ผมพยายามที่จะเริ่มต้นเขียน โครงร่างของบทความนี้ ผมรู้สึกเหมือนกับว่า...ผมจะเขียนอะไรดี?
ผมพยายามคิดถึงมันครั้งแล้วครั้งเล่าและในตอนนี้กำหนดส่งต้นฉบับก็ใกล้เข้ามาแล้ว  ถ้างั้น...สำหรับการเขียนครั้งแรกนี้ ผมจะเขียนเรื่อง “SM”


ถึงแม้ว่าคุณจะเขียนมันออกมาธรรมดาๆ แค่ “SM” แต่มากกว่านั้น...คุณคิดกับมันอย่างไร แล้วยังเพิ่มเติมมากไปกว่านั้นอีก
บวกในส่วนของการตีความและพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลต่างๆ จุดนี้จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยังมี direct SM (*1) และ psychological SM อีกด้วย
ดังนั้น...ในเรื่องที่เราจะคุยกันตอนนี้ ทำไมเราไม่เรียกมันว่า “Tsuzuku-style SM”ล่ะ??  ผมจะมีความสุขมากๆ ถ้าหากคุณสามารถรับมันไปแบบ "Ah…มีวิธีในการคิดแบบนี้ด้วย"


ก่อนอื่น...จดไว้เลยนะว่า...ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผมจะคุยเกี่ยวกับ “SM” ในแบบสบายๆ ไม่ใช่แบบอาการโรคจิต (mental disorder)


“เพราะว่าผมเป็น S~” เป็นสิ่งที่ผมมักจะได้ยินเสมอจากคุณๆ สุภาพบุรุษและผมคิดว่า "อะไรทำให้คุณเรียกตัวเองว่าคุณนั้นเป็น?"
ในทางตรงกันข้ามก็เช่นเดียวกัน  มนุษย์เพศชายส่วนใหญ่นั่นแหละ มักจะพูดว่า "เพราะว่าผมเป็น S" เพื่อจะยืนยันความเข้มแข็งของเขาด้วยคำนี้
(แต่ในส่วนของผู้หญิง คุณควรจะหยุดพูดว่า "เพราะว่าฉันเป็น M" ต่อหน้าผู้ชายนะ โอเคไหม?)

คือ S ใช่ไหม..ที่ใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองกดบางคนให้ต่ำลง? การทำร้ายใครสักคนคือการแสดงออกของ S?

ผมไม่ได้พูดว่าที่ยกตัวอย่างมาทั้งสองแบบนั้นไม่มีนะ ผมคิดว่า...ดูเหมือนว่าจะมีคนเยอะแยะมากมายที่ไม่เข้าใจ ความรักและความเอื้ออาทรระหว่างเขาทั้งสองที่ทำสิ่งเหล่านั้น

มีผู้ชายมากมายที่มักจะพูดว่า "ผมเป็น S ดังนั้นผมไม่ชอบการถูกรังแก" พวกเขาพูดแบบนั้นเพราะว่าพวกเขาไม่เข้าใจประเด็นของ SM โดยสิ้นเชิง
รูปแบบชีวิตของพวกเราน่ะสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด ดังนั้นคนที่ชอบความเจ็บปวดมากๆ ก็อาจจะไม่มี  ผมรู้สึกว่ามันไม่เป็นไรหรอกหากคุณจะทำบางสิ่งกับคู่ของคุณ
ในขณะที่คุณทั้งสองคนรู้จักเวลาที่เหมาะที่ควร, สถานที่และความรุนแรงที่จะไม่ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหากคุณทำร้ายเขา (*2)


ถ้าหากคุณพยายามจะทำ direct SM ก่อนที่คุณจะรู้จักสิ่งเหล่านั้นแล้วคุณทั้งคู่จะมีความสุข
ในความเป็นจริงแล้ว sadists คือร่าง masochistsของคุณเอง  Sadists ควรจะเป็น sadomasochists ด้วยซ้ำไป...ผมคิดแบบนี้นะ


เพิ่มอีกนิด...สิ่งที่ผมต้องการพูดก็คือ บางทีคนที่เป็น masochists อาจจะรู้ดีถึงข้อจำกัดของพวกเขาที่จะจบลงด้วยการเป็น sadists หรือเปล่า? เป็นเรื่องทำนองนั้นนะ


ด้วยข้อจำกัด...ผมหมายถึงจุดแตกหัก  อือมม...ถึงแม้ว่าผมจะใช้คำว่า "แตกหัก" แต่ผมไม่ได้หมายความว่า "แตกหัก" ในทางกายภาพนะ
แต่หมายถึงทางด้านจิตใจแตกหักนั่นเอง  มีสิ่งนี้นี่แหละที่จะทำให้น้ำหยดลงบนหัวของคุณติ๊งๆ  ซึ่งสิ่งนี้มันเป็นรูปแบบหนึ่งของการทรมาณ
คุณเคยคิดไหมเหล่าว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นกับคุณ? หากคุณรู้ถึงข้อจำกัดของคุณเอง คุณก็อาจจะนำไปสู่จุดที่ดีของความบ้าคลั่งได้ (*3)
และถ้าหากมันไม่ใช่แค่การแสดง SM แต่กลับเป็นใครบางคนพยายามที่จะทำสิ่งนั้นกับคุณจริงๆ ล่ะ?
ถ้าหากใครสักคนกำลังใช้มันกับบุคคลที่สามในลักษณะดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานหรือว่าความรักล่ะ?
ฟังดูเหมือนเรื่องน่าขัน แต่...มีคนที่เป็นแบบนั้นจริงๆ เหมือนกันนะ ลองคิดดูมันน่่ากลัวนะ...หรือไม่ใช่? ถ้าคุณพยายามทำสิ่งเหล่านั้นกับตัวคุณเอง
ชีวิตของคุณจะเหมือนถูกติดตามโดยที่คุณไม่เคยสังเกตุเห็นเลยและหรือไม่ก็...ในที่สุดมันจะจบลงโดยที่คุณเองจะไม่เข้าใจแม้แต่โลกของคุณเอง


ถ้าคุณมีชีวิตอยู่  จิตใจของคุณเป็นสิ่งที่ถูกใช้อยู่ตลอด การล้อเล่นกับ SM ก็อาจะเป็นไปได้ว่า ชีวิตของคุณนั้นเป็นเรื่องเล่นๆ


คนไม่สามารถอยู่ตัวคนเดียวได้   แม้กระทั้งการเกิดมาของคุณก็เพราะมีคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย  — ยกตัวอย่างก็ พ่อกับแม่ของคุณไง
ได้รับการเลี้ยงดูมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งของคุณเองเท่านั้นหรอก เช่นเดียวกัน...คุณสามารถทำงานได้เพราะว่ามีคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย
และผมเขียนบทความนี้ก็เพราะมีคนอื่นๆ อยู่...เช่นกัน


ความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้ากับผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นเรื่องสำคัญมากๆ และมันจะเป็นวัฎจักรเช่นนั้นไปตลอดจนชั่วชีวิต


จงขอบคุณที่ยังมีชีวิตอยู่  ในยามที่คุณอกหัก  จะเป็นอย่างไรหากจะพยายามเปลี่ยนการเอาชีวิตไปผูกติดไว้กับใครสักคน?
ความที่รู้สึกที่เกิดขึ้นจากสิ่งนั้นอาจจะนำพาคุณคนใหม่มา  บางสิ่งเช่น…“เธอนั่นแหละ masochist”?


ยังมีอะไรอีกมากมายที่ผมอยากจะเล่า แต่ตอนนี้...ต้องจบลงแค่นี้ก่อนนะ


―Tsuzuku

______


*หมายเหตุจาก ผู้แปลภาษาอังกฤษ*

1. เขาใช้ตัวอักษรที่มีความหมายว่า “direct SM” ฉันก็เลยใช้ตามไปเช่นนั้น  ถึงแม้ว่าในฝั่งตะวันตกจะใช้คำว่า idk เขาเพียงแค่หมายถึงการแสดงออกทางร่างกาย แต่ฉันคิดว่าคุณเข้าใจมันนะ
2.Okay, ตรงนี้มันฟังดูแปลกๆ เพราะว่าเขาใช้คำแปลกๆ แต่เหมือนกับว่า เขาต้องการจะบอกว่าการ "ทำร้าย" คนอื่นเป็นเรื่องที่ไม่น่ายอมรับได้
3.เขาพูดถึงการหยดน้ำลงบนหัวเพื่อเป็นการทรมาณแบบจีน ซึ่งจะสามารถทำให้คุณเป็นบ้าได้เลยทีเดียว

ฉันหวังว่า ฉันอธิบายทุกอย่างกระจ่างพอนะ เพราะว่า Tsuzukuมีแนวโน้มว่าจะใช้คำที่ไม่มีเหตุผล! เช่นเดียวกับที่...เขามีวิธีแปลกๆ ในการแสดงตัวตนของตัวเอง
และฉันไม่คิดว่าฉันเข้าใจมันมากพอที่จะจับประเด็นคำพูดเขาได้  ยังไงก็..ยกโทษให้ฉันด้วยนะ :c ฉันหมายถึง...ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ว่าเขาพูดถึงอะไร
เพียงแต่ฉันอยากจะนำความเป็นตัวตนของคำพูดเขาผ่านไปยังคุณทุกคน...ฉันจะพยายามแปลบทความอื่นๆ ของเขา
ถ้าหากฉันสามารถได้มันมา  ฉันคิดว่า...ฉันจะเข้าใจมันได้ดีมากยิ่งขึ้น


-----------------------

หมายเหตุจาก Admin A:

ตอนจบของบทความในประโยคที่ว่า “เธอนั่นแหละ masochist” เหมือน Tsuzuku ต้องการจะสื่อว่า เธอคนนั้นกลายเป็นคนใหม่
ที่หลุดพ้นจากความเป็น masochist แล้วกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งไม่อ่อนแออีกต่อไป และเธอคนนั้นเป็นคนที่เรียกคนที่ทิ้งเธอไปว่าคนนั้นต่างหากที่อ่อนแอ
คนนั้นต่างหากเป็นคนที่ถูกทำร้าย คนๆ นั้นนั่นแหละที่เป็น masochist แอดมินเข้าใจแบบนี้นะคะ


Special Thanks :: http://heresiarchy.tumblr.com

Tuesday, January 15, 2013

MejibrayTH's Mission 20130115


Koichi’s blog:
Tonight。



หิมะตก

มันเป็นอะไรที่สวยมากๆ เลย เห็นแล้วมีความสุขนะ

อนาคตเนี่ยก็เหมือนกับกระดาษสีขาว

แต่ผมชอบช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่แบบนี้

เหมือนกับว่า...ผมต้องยอมรับมัน


…หลังจากนั้นแล้ว ชีวิตก็เป็นสิ่งสวยงาม

แล้วเจอกันนะ (´・ω・`)


English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

MiA’s blog:
Kokokokokoko



ตอนนี้ไอโฟนของผมเป็นแบบนี้นะ ♡

ครั้งก่อน (∩`ω)⊃≡⊃DouKuShi♡

ไอโฟนของผมหล่นลงมากจากสะพาน แต่ว่าข้างใต้สะพานน่ะ มีหิมะอยู่ ไอโฟนของผมจึงไม่เป็นอะไร ♡



English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

RT Tsuzuku san ตอนนี้ฉันรู้สึกเกลียดตัวเองมากๆ ฉันไม่รู้ว่าฉันจะสู้ไปเพื่ออะไร ฉันคิดว่า..ฉันทำทุกอย่างดีที่สุดเท่าที่ฉันจะสามารถแล้ว แต่มันเหมือนกับว่า ในสายตาของคนอื่นสิ่งที่ฉันทำนั้นไม่มีค่าอะไรเลย


Tsuzuku’s tweet:
ไม่ต้องไปแคร์คนอื่นเลย มันไม่ดีเหรอที่คุณเป็นตัวของตัวเอง ใจเย็นๆ นะ แล้วค่อยๆ ก้าวเดินต่อไป


Tsuzuku’s tweet:
ไม่ต้องไปสนใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่มีชีวิตอยู่อย่างที่เป็นตัวของคุณเอง นั่นน่ะดีแล้ว มีชีวิตอยู่และแสดงออกอย่างที่คุณคิดว่ามันดีก็พอแล้ว
ถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่รู้ว่า คุณจะสามารถปลดปล่อยมันออกทั้งหมดได้หรือไม่ แต่การค่อยๆ ปลดปล่อยมันออกมา ในช่วงเวลาที่คุณยากลำบาก
แล้วโยนทั้งหมดนั้นใส่ไปที่คนอื่นนั่นก็โอเคเหมือนกันนะ  อย่าไปสนใจช่วงเวลาที่ยากลำบาก อย่าไปสนใจในสิ่งที่คุณไม่รู้ แม้กระทั้งที่สิ่งที่คุณคิดถึงอยู่ ยังไง...คุณก็เป็นตัวของคุณเอง



English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

Monday, January 14, 2013

MejibrayTH's Mission 20130114


Tsuzuku’s secret blog:

Cold

วันนี้เป็นวันหยุดของผม งั้นก็อยู่จนดึกได้



Avalon MV

Documentary

DIE KUSSE MV

DIE KUSSE B type BLAZE Oneman live’s movie

ตอนที่ดู..ผมดื่มเบียร์ไปด้วย

ผมใส่เสื้อยืด

หนาวจังเลย

แต่เดี๋ยวพอผมจะไปนอน ก็จะถอดเสื้อผ้าออกหมด




วันนี้ก็ขอพักผ่อนสบายๆ สักหน่อย...

ได้ดู DVD ที่เช่ามาด้วย

ผมจะเขียนถึงมันที่หลังนะ



Tsuzuku

English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

MiA’s tweet:
วันนี้ผมขึ้นรถไฟผิดสายแล้วก็ทำให้มาถึงออฟฟิคช้าและทางออฟฟิคไม่ให้เบนโตะกับผม  ดังนั้น...ผมจะไม่เขียนบล๊อคอีกแล้ว


MiA’s tweet:
แต่ยังไงก็เถอะ  มีอยู่ 3 คนที่ไม่ได้เบนโตะ o(TωT )Funyun。
Yokohama ขอบคุณนะ!(∩`ω)⊃≡⊃DouKuShi♡

MiA’s tweet:
แต่มีอยู่คนหนึ่งนะที่เขาไม่มาสาย คนนั้นคือ M-shi*!(∩`ω)⊃≡⊃DouKuShi♡



*ผู้แปลภาษาอังกฤษ / ฉันคิดว่า  M-shi=Meto xD;


English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

Koichi’s blog:
0113 Kashiwa ThumbUp。



ขอบคุณ

ครั้งแรกของ MEJIBRAY ที่ Chiba ประสบความสำเร็จ

และนี่เป็นครั้งที่สองที่เราเล่นเพลงใหม่


เป็นยังไงบ้าง (´・ω・`)

ส่วนสุดท้ายท่อนแรกของเพลงใหม่เป็นเบสโซโล่  ก็เลยเหมือนกับมีผมเหลืออยู่แค่คนเดียว (´・ω・`)

ตอนนี้ผมกำลังเลือก "อะไรเจ๋งๆ" เพื่อที่จะใช้ในตอนนั้น  ดังนั้น...โปรดตั้งตารอชมกันให้ดี (´・ω・`)


ไลฟ์ต่อไปที่ Urawa Narciss。

(´・ω・`)

4 man tour ตอนนี้มาถึงครึ่งทางแล้ว (´・ω・`)

FuFu(´・ω・`)

แล้วเจอกันนะ(´・ω・`)



English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

Meto’s blog:
*0113



*มันเจ็บมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก…………


*ต่อไปที่…urawa..!!!!


*แล้วเจอกัน!!!!!


English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

Sunday, January 13, 2013

MejibrayTH's Mission 20130113


MiA’s tweet:
ตั้งแต่ความรู้สึก "โศกเศร้า"ของผมหายไป


MiA’s tweet:
มันแย่นะ..ที่ผมไม่มีความรู้สึกโศกเศร้าเสียใจ


MiA’s tweet:
ตั้งแต่คริสมาสแล้วล่ะ ที่ผม..............อยากมีแฟน!


RT MiA kun ชอบผู้หญิงแบบไหน? คนที่สดใส? หรือผู้หญิงที่นุ่งกระโปรง? (´・ω・`)

MiA’s tweet:
ถ้าให้ผมเดาคงเป็นผู้หญิงแบบที่.................ชอบกีต้าร์ Flying V (´・_・`)♡


MiA’s tweet:
กลับมาเรื่องที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้  สำหรับผมนะ การที่ไม่มีความรู้สึกโศกเศร้าเสียใจเนี่ย  คือ ถ้าผมยังเก็บความเศร้าเหล่านั้นไว้ ผมจะทำอะไรเชื่องชามาก
นั่นแหละ...ผมก็เลยอยากเปลี่ยนไปสู่  「mortifying」 แล้วใช้มันเป็นพลังของผม


MiA’s tweet:
เวลาที่ผมจะเลิกเป็นนักดนตรีคงจะเป็นเวลาที่ผม "สิ้นหวัง" มากกว่า "ความหวัง"


MiA’s tweet:
MEJIBRAY…แบกชีวิตของคนมากมายไว้บนหลัง บางที...อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่...ผมจะทำให้มันประสบความสำเร็จและมีผลงานที่ดี


MiA’s tweet:
ผู้คนที่อยู่ร่ายรอบตัวของผม ผู้คนที่สนับสนุนผม ผู้คนที่เกี่ยวพันกับผม ผมจะทำให้พวกคุณมีความสุข...รอนิดหนึ่งนะ


MiA’s tweet:
ตอนที่ผมได้ยินมาว่า ที่ Brazil มีการเคลือนไหวเรียกร้องเพื่อนที่จะให้ Mejibray ไปแสดงสดที่นั่น  ผมมีความสุขมากจริงๆ นะ ผมอยากจะไปแสดงสดที่นั่นให้เร็วที่สุด!


English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

Koichi’s blog:
Safely



ผมประสบความสำเร็จในการกลับมาจาก Kyanagawa ถึง Tokyo โดยสวัสดิภาพ (´・ω・`)

แต่ก็มาถึงช้ากว่าเวลา (´・ω・`)

ผมจะเขียนเกี่ยวกับการแสดงวันนี้ที่หลังนะ (´・ω・`)

แล้วเจอกัน (´・ω・`)

-----------------------------------


Koichi’s tweet:
{…ฆ่าคนหนึ่งคน...คุณกลายเป็นฆาตรกร, ฆ่าคนมากมาย...คุณกลายเป็นฮีโร่, ฆ่าคนทุกคน...คุณกลายเป็นพระเจ้า


English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

Meto’s blog:

*Good morning

*0112



*วันนี้ผมก็ยังคงรออยู่เหมือนเดิมนะ!!!!!!



English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

Tsuzuku’s blog:

2013.01.13 Yokohama F.A.D

วันนี้พวกคุณทำได้ดีมากๆ

ผมใส่ไปอย่างเต็มที่แบบไม่ยั่ง

ผมคิดว่า...ผมคงจะตายเลยทีเดียวนะ

ใบหน้าของทุกๆ คน มหัศจรรย์มากๆ เลย


1.Avalon

2.Black baccarat

3.Sabato

4.Wrath of GOD

5.KILLING ME

6.VIOLET

7.D.E.INCUBUS

8.Toroshina

9.Karma-瓦礫のマンティコーラース-

ไลฟ์ครั้งแรกสำหรับปีนี้ของ MEJIBRAY ช่างเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมาก

วันนี้จะแสดงที่ Kashiwa。

วันนี้ขอให้คุณสนุกตั้งแต่ต้นจนจบนะ แล้วคุณจะไม่มีวันเสียใจเลย


คุณรักผมไหม?

Tsuzuku


English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand

Tuesday, January 8, 2013

MejibrayTH's Mission 20130101-08


Tsuzuku’s tweet:
ผมท่องเวปแล้วก็ไปเจอรูปเก่าๆ ของผม 4 Lip Piercing,  Madonna Piercing,  2 eyebrow Piercing, Anti-eyebrow Piercing, Madison Piercing ฉีกไปแล้ว และ make-up ก็แย่มาก



Tsuzuku’s tweet:
ผมด้านหน้าสั้นมากๆ เลยーーーー



English Translation by mejibray-translate
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------


Sho: "ผมอยากกินอาหารที่ Tsuutan ทำจังเลย”
Tsuzuku: "อยากให้ฉันทำอะไรล่ะ?”
Sho: "ผมอยากกินอะไรที่กินแล้วสดชื่นอย่างเมื่อก่อนอีกครั้งน่ะ แล้วก็แครกเกอร์ที่มีท๊อปปิ้งเยอะๆ อร่อยๆ แล้วมี Tsuzuku เป็นอาหารจานหลักนะๆๆ ได้โปรด"
Tsuzuku: "ไม่ต้องมายุ่งกับฉันเลย!!!!”

English Translation by http://visual-things.tumblr.com
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

Meto’s blog:
*Pack

*มาดูและผิวพรรณของเรากันเถอะ ♪



*Ee……….


*ยาพิษ!?!?

*ยาพิษ!?!?!?



(ผู้แปล / เพราะคำว่า Synake ไปพ้องกับคำว่า snake เมโตะก็เลยบอกว่าแผ่นมาร์คหน้าอันนี้เป็นยาพิษ) D8


———————————————————————————


meto’s blog:
*2013

*Happy….. new year_



*ปีนี้ก็เช่นเดิม….yoroshikuonegaishimasu!!!!!!!!

*ขอให้สนับสนุน….MEJIBRAY..มากขึ้นและมากขึ้นนะ!!!!!!!!!

English Translation by mejibray-translate
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

Koichi’s blog:
Lately。



earphone ของผมพังอยู่เรื่อยๆ ดังนั้น...ตอนนี้ผมก็เลยเปลี่ยนมาใช้ headphone (´・ω・`)

คือไงล่ะ...(´・ω・`)

ผมพยายามที่จะโชว์ว่า... ‘ผมฟังเพลงนะ’
จากลุคนี้ (´・ω・`)

อือม (´・ω・`)


เวลาที่เอาวางไว้ในรถ ดูเหมือนว่าจะไปกันด้วยดีทีเดียว (´・ω・`)



ปัญหาน่ะ...ไม่มีทางจบหรอก (´・ω・`)


…ตอนนี้ DIE KUSSE อยู่ในขั่นตอนสุดท้ายของการทำงานแล้ว


(´・ω・`)

วันนี้...ผมจะทำงานอย่างเต็มที่




แล้วเจอกันนะ (´・ω・`)


—————————————————————————————


Koichi’s blog:

0105 jishubanclub。Like en Edison Tokyo。




Happy new year。instore event ครั้งแรก

นี่เหมือนเป็นคำขอบคุณ


Koichi กำลังโตขึ้น ใส่กิโมโนและกำลังอวยพรปีใหม่ (´・ω・`)

ถ้างั้นก็ (´・ω・`)

ใส่กิโมโนแล้วขยับตัวยากจริงๆ (´・ω・`)

ปีนี้...ผมก็ยังคง  Yoroshiku(´・ω・`)

อยากขอบคุณตลอดเวลาเลยนะ


…ผมมีความสุขที่คุณมาแม้กระทั้งในวันที่หนาวมากๆ แบบนี้  แต่...ระวังอย่างให้ตัวเองเป็นหวัดนะ (´・ω・`)
I’m happy that you came even in this cold weather。But don’t catch a cold


แล้วเจอกันนะ (´・ω・`)


English Translation by mejibray-translate
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

MiA’s blog:

Hat(=^・ω・^)ノNyaHa♡



เมื่อวานเป็นแบบนี้ (∩`ω)⊃≡⊃DouKuShi♡
อ่อนๆ เนอะ*꒰๑´•.̫ • `๑꒱

(=^・ω・^)ノNyaHa♡


(ผู้แปล / ในวันนั้นเขาแต่งหน้าอ่อนๆ)

—————————————————————————

MiA’s blog:

Good progress(=^・ω・^)ノNyaHa♡

วันนี้ผมก้าวหน้าไปอีกขั่นหนึ่ง (=^・ω・^)ノUisshaー!♡

ทำงานสำเร็จลงด้วยดี…

MiA ผมอยากเล่นดนตรีแล้ว o(TωT )Funyun.

ในการบันทึกเสียงครั้งหน้าผมคงต้องสั่งตัวแปลงไฟมาใหม่ กีต้าร์ของผมจะได้มีพาวเวอร์มากขึ้น (∩`ω)⊃≡⊃DouKuShi♡
ตอนนี้ผมกำลังพักเบรดพร้อมกับทานซุปข้าวโพดไปด้วยเสร็จแล้วก็จะกลับเข้าไปทำงาน



ผมลืมโพสสิ่งนี้!


————————————————————————


MiA’s blog:
Today also.


ก็ยังคงอยู่ด้านใน o(TωT ) Funyun.
ทุกๆ คนที่อยู่ในลิสต์ของผม อรุณสวัสดิ์นะครับ (=^・ω・^)ノ MiA♡


ผมตรวจดู MV เพลง DIE KUSSE ซึ่งจะจำหน่ายในเดือนหน้า แล้วก็ตรวจในส่วนของ Shinjuku BLAZE oneman live ซึ่งจะไปพร้อมกับ DIE KUSSEด้วย ♡


ยังไงก็ตามฉากที่ Tsuzukun ยื่นลิ้นออกมาเป็นฉากที่ผมชอบที่สุด(=^・ω・^)ノ NyaHa♡

ดังนั้น...ทุกๆ คนตั้งตารอกันให้ดีนะ!(∩`ω)⊃≡⊃DouKuShi♡



※ผมได้สิ่งนี้มา꒰๑´•.̫ • `๑꒱♡



English Translation by mejibray-translate
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

Tsuzuku’s tweet:
ตอนนี้ผมกำลังตรวจไลฟ์มูฟวี่อยู่ เวลาที่ดูด้วยความเร็วแบบดับเบิ้ลสปีด แล้วเห็นเพื่อนๆ ในวงกระโดดไปมานี่มันน่ารักจริงๆ


Tsuzuku’s tweet:
ด้วยความเร็วแบบดับเบิ้ลสปีด บางช่วงผมร้องเสียงเหมือนสุนัขเลย


English Translation by mejibray-translate
Thai Translation by Mejibray Thailand

------------------------

Koichi’s tweet:
{…ปีศาจน่ะ..ไม่เคยให้คำสัญญาหรอก

Koichi’s tweet:
{…เพราะว่าการทำอะไรที่เหมือนๆ กับคนอื่นน่ะ มันเป็นเรื่องดาดดื่น  ดังนั้น...ผมก็เลยคิดถึงตัวเองที่มักจะทำอะไรไม่เหมือนคนอื่นๆ ว่าเป็นสัตว์ประหลาด
บางครั้ง...ผมก็คิดว่ามันดีแล้วที่เลือกจะเดินไปบนหนทางที่คุณต้องการ


English Translation by mejibray-translate
Thai Translation by Mejibray Thailand

Saturday, January 5, 2013

[Thai Trans] Rock and Read vol. 045 Tsuzuku [Mejibray] Interview


Rock and Read vol. 045 Tsuzuku [Mejibray] Interview

English Translation by http://hanakotobatranslations.blogspot.ie/2013/01/rock-and-read-vol-045-tsuzuku-mejibray.html#more
Thai Translation by Mejibray Thailand



ตั้งแต่พวกเขาก่อตั้งวงในปี 2011, Mejibray ก็สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอย่างต่อเนื่อง นักร้องนำ Tsuzuku ผู้ซึ่งดูเหมือนนักเลงที่ก้าวร้าวบนเวที
แต่ว่าเขาเป็นในสิ่งที่ตรงกันข้าม เขากลับมองว่าตัวเองเป็นผู้สารภาพบาป  วันนี้เขาคุยกับเราอย่างเปิดอกถึงสิ่งที่เขาชอบและเรื่องราวถึงการก่อตั้งวงของเขาได้อย่างไรกับผู้อ่านทุกๆ คน
เราจะสอบถามเขาถึงก้าวย่างแห่งการเข้าสู่วงการ visual kei ทำไมเขาถึงอยากจะเป็นนักดนตรีและหนทางสู่การก่อตั้ง Mejibray อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
เขาบอกเล่ากับเราถึงโลกทัศน์และมุมมองต่อวงการ visual kei ในฐานะของนักดนตรีคนหนึ่งและบอกเล่าให้เราฟังถึงความใฝ่ฝันของเขาซึ่งไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน



- แม่ของผมเคยพูดว่า "สักวันผมจะได้มาอยู่ใน Rock and Read (หัวเราะ) ผมก็เลยตัดสินใจว่าจะให้สัมภาษณ์กับพวกคุณตั้งแต่ตอนที่คุณยังไม่ได้ติดต่อผมไปซะอีกนะ (หัวเราะ)


คุณทำได้ดีกับคำสัญญาของคุณเองในการปรากฏตัวครั้งแรกในนิตยสารของเรา (หัวเราะ) รูปที่ใช้ประกอบการสัมภาษณ์ในวันนี้ถ่ายทำที่บ้านเกิดของคุณที่ Yokohama ใช่ไหม? 
- ใช่ครับ ผมเกิดและเติบโตที่โยโกฮาม่า


ตอนเด็กๆ คุณเป็นยังไงหรือ?
- ผมมันเด็กดื้อที่ทุกคนต้องส่ายหน้า (หัวเราะแห้งๆ) ผมจะรู้สึกเหมือนว่าผมเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ตลอดเวลา จนกระทั้งในตอนนี้ผมยังคงชอบ  Kamen Rider [1] อยู่เลยนะ
ผมชอบมากก็เหมือนๆ กับเด็กคนอื่นทั่วไปนั่นแหละ ผมมันเป็นเด็กเหลือขอที่คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งแล้วยังมีเรื่องต่อยตีหลายครั้งเลย ผมสามารถกระโดดใส่คู่ต่อสู้ของผมและสามารถน็อคเขาลงได้ด้วยหมัดเดียว
ผมเคยกระโดดลงมาจากที่สูงมากๆ แล้วก็ทำให้กระดูกของผมหัก (หัวเราะ)


หมายความว่าคุณชอบที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้องใช่ไหม?
- ใช่ครับ  และนั่นเป็นจุดที่ทำให้ผมอยากเปลี่ยนตัวเองหรือเปล่านะ ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่อาจจะเป็นเพราะสิ่งนั่นแหละที่ทำให้ผมเริ่มที่จะแต่งหน้าและแต่งตัวอย่างในตอนนี้


งั้นคุณก็เป็นฮีโร่ในเวลาที่อยู่กับเพื่อนๆ?
- ใช่ครับ แต่ว่าคุณเคยได้ยินเสียงที่เหมือนกับเสียงยิงปืนไหม? นั่นล่ะ...มันสามารถทำให้ผมวิ่งหนีได้นะ แต่ตอนที่ผมเข้าเรียนประถม ผมก็ยังคงชอบอะไรแบบนั้นอยู่
แต่ก็มีอีกด้านหนึ่งนะอย่างเช่น ถ้าผมเห็นเพื่อนๆ ออกไปเล่นด้วยกัน ผมจะทำเหมือนว่าผมอยากจะไปกับพวกเขาด้วย แต่จริงๆ แล้วผมคิดว่าพวกเขาน่ะแข็งแกร่งกว่าผมไง
ดังนั้นผมจึงไม่ควรจะไปช่วยอะไรและผมก็เลยไม่ออกไปเล่นกับพวกเขา



ดังนั้นคุณก็เลยทำเหมือนกับว่าแขนคุณเจ็บหรืออะไรแบบนั้น?
- ใช่ครับ (หัวเราะ)! ใช่เลยแหละ ผมทำแบบนั้นจริงๆ แม้กระทั้งในตอนนี้  ในตอนนั้นเวลาที่ทุกๆ คนออกไปเล่นตอนช่วงพักเที่ยงที่โรงเรียน  ผมคิดว่ามันดูเจ๋งกว่าตั้งเยอะ ถ้าผมอยู่ในห้องเรียนด้วยตัวคนเดียว


คุณนี่เหมือนหมาป่าที่โดดเดี่ยวนะ
- ใช่ฮะ แต่ทุกๆ คนก็คิดว่าผมเป็นหัวหน้าที่ดีเช่นกัน ผมน่ะได้รับการเลือกตั้งให้เป็นหัวหน้าของสภานักเรียนนะ


เป็นอะไรที่ surprise มาก!
- มันเป็นการลงคะแนนโดยการยกมือ เมื่อชื่อของผู้สมัครที่คุณชอบถูกประกาศ คุณก็ยกมือของคุณขึ้น


ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นคนในแบบที่เป็นที่รักของทุกๆ คนนะ ในตอนนั้นคุณชอบร้องเพลงแล้วหรือยัง?
- ไม่เลยครับ ตอนเด็กๆ ผมเกลียดมัน  คุณแม่ผมต่างหากที่ชอบร้องเพลงและแม่ก็ร้องเพลงได้ดีมากๆ ตอนที่ผมเป็นเด็กแม่พาผมไปคาราโอเกะเพื่อจะร้องเพลงตรีมของ Kamen Rider
แม่ร้องจบและหลังจากนั้นแม่ก็บอกว่าแม่ร้องเพลงแย่แค่ไหน  แต่ผมจำได้เสมอด้วยความรัก (หัวเราะ)


งั้นการฝึกซ้อมในชั่วโมงดนตรีและการขับร้องประสานเสียงก็เป็นเรื่องยากสำหรับคุณใช่ไหม?
- ผมไม่ได้เข้าร่วมการฝึกร้องประสานเสียงบ่อยๆ หรอก ผมก็แค่แหกปากร้องเพลงอย่างสุดเสียง ซึ่งจุดนี้ไม่มีใครอยากจะเลียนแบบหรอกนะ
และในชั่วโมงดนตรีพวกเราไม่ได้ทำอะไรมากมายเพราะเราเองก็มีการบ้านของตัวเองอยู่แล้ว  ตอนปี 3 เพื่อนๆ ของผมเริ่มไปเที่ยวคาราโอเกะกัน พวกเขาชวนผมด้วยนะ แต่ผมก็ไปแค่สองครั้ง มันสนุกมากๆ เลย


ในตอนนั้นคุณร้องเพลงอะไร?
- ก็เพลงของ Kinki Kids และ Chemistry แต่เพื่อนๆ และผมเป็นแก็งค์ที่ส่งเสียงดังมากๆ ตลอดเวลา ซึ่งมันเป็นอะไรที่สนุกมากๆ พวกเราร้องตะโกนในเพลง “Mikan no uta” ของ Sex Machine Guns.


แล้วคุณเริ่มต้นฟังเพลงตั้งแต่ตอนไหน?
- ก็ย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่ผมชอบเหล่า superheroes นั่นแหละ เพราะมันทำให้ผมฟังเพลงอะนิเมะ อย่างเวลาที่พวกเราขับรถแบบเนี้ย ซีดีแผ่นแรกของผมเป็นตรีมซองค์ของ Eccentric Shounen Boy “Gottsuee Kanji”
ในตอนนั้นมันฮิตมากเลย และผมจำได้ว่าผมซื้อมันนะ แต่คิดว่าผมจะให้เพื่อนยื่มไปก็นะ..มันฮิตมาก (หัวเราะ) แต่เวลาที่ผมเริ่มต้นฟังเพลงมันกลายเป็นว่าสิ่งนี้เป็นเครื่องมือที่ทำให้ผมคุยกับเพื่อนมากขึ้น


แล้วตอนไหนที่ดนตรีเริ่มมีความหมายกับชีวิตคุณมากกว่าสิ่งอื่น?
- มันเกิดขึ้นตอนไฮสคูลตอนที่ผมเข้าไปสู่โลกของ visual keiผมกับเพื่อนจะนั่งอยู่ที่ด้านหลังของห้องเรียนในช่วงเวลาพักกลางวัน เขาเอาเครื่องเล่นซีดีของเขามาให้ผมแล้วก็เปิดเพลงดังสนั่น
เขาบอกผมว่านี่คือ visual keiผมได้ยินมันและต้องฟัง


ในตอนแรกคุณไม่ได้ชอบมันหรือ?
- คือ..ยังไงล่ะ ในตอนนั้นมีผู้ชายเยอะแยะที่ดูเหมือนผู้หญิง ถ้าดึงเอาเรื่องร้องเพลงออกไป ผมไม่ค่อยชอบมันสักเท่าไหร่ ในตอนนั้นผมฟัง Exile เช่นกันนะ
แต่เพื่อนของผมน่ะ เอา “butterfly” ของ Baroque มาให้ฟัง และหลังจากนั้นผมก็รู้ตัวว่าผมอยากจะเป็นนักดนตรี นี่เป็นจุดเริ่มต้นจริงๆ หลังจากที่โรงเรียนเลิก ผมก็ไปซื้อซีดี


หมายความว่าหลังจากนั้นคุณก็ตกลงไปอยู่ในโลกของเสียงดนตรี
- เพื่อนสมัยเด็กของเพื่อนผมเขาอยู่ในวง visual keiพวกเขามีแฟนๆ ของวงอยู่ประมาณ 20 คนได้ แต่..ผมก็คิดว่ามันเจ๋งจังเลย ผมยืนอยู่แถวหน้าในโรงเรียน ก็แล้วทำไมผมไม่ทำสิ่งนั้นที่ข้างนอกโรงเรียนด้วยล่ะ?
ผมได้ยินคนมากมายพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็ค้นพบว่าตำแหน่งนักร้องนำเป็นที่สุดของวงดนตรี ดังนั้น..ผมก็คิดถึงว่าผมควรจะปลุกเสียงกรีดร้องในตัวของผมให้ตื่นขึ้นเสียที
ผมขอยื่ม DVD ไลฟ์ของ Dir en grey ซึ่งนั่นเป็นการเปลี่ยนโลกของผมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


คุณเริ่มก่อตั้งวงเมื่อไหร่?
- ช่วงหลังจบไฮสคูลครับ  ผมอยากมีงานทำ ดังนั้น...ผมก็เลยตั้งวงดนตรี ผมลาออกจากงานที่ครอบครัวอยากให้ผมทำหลังจากไปทำได้แค่สัปดาห์เดียวโดยที่ไม่ได้บอกพวกเขา (หัวเราะ)
ผมไปหาบริษัทจัดหาห้องเช่าและก็ได้ห้องพักเล็กๆ มาห้องหนึ่ง หลังจากนั้นผมก็ไปบอกครอบครัวให้เขามาเซ็นต์รับรองให้ผมหน่อย


มันฉุกละหุกมากเลยใช่ไหม?
- ผมคิดนะ ว่าสิ่งที่ผมทำมันไม่เหมาะสมมากๆ แต่ผมก็คิดว่าถ้าผมออกจากบ้านแม่มาผมจะสามารถตั้งวงได้ ผมไปโตเกียวด้วยเสื้อผ้าที่ติดตัวอยู่และนั่นล่ะ...ที่มันเปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตผม!
แต่ผมก็ระวังนะ (ยิ้ม) ไลฟ์ของวงที่เจ๋งที่สุดกำลังรออยู่ ผมคิดว่ามันคงจะเป็นไลฟ์ที่เจ๋งมาก แต่...ผมไม่มีเงิน ไม่มีอาหารและไม่มีสมาชิกในวง (ยิ้มแห้ง) ผมก็ยังทำอะไรไม่ได้


นานไหมที่เป็นอยู่แบบนั้น?
- ไม่นานครับ ประมาณ 6 เดือนหลังจากที่ผมออกจากบ้านมา ผมก็เริ่มก่อตั้งวง ในเดือนหนึ่งพวกเรามีไลฟ์ประมาณ 4 ครั้ง ผมเป็นคนเดียวที่ทำทุกอย่างและพวกเขาไม่ทำอะไรเลยทั้งวัน
หลังจากนั้น 3 เดือน พวกเราก็ยุบวง  มือกลองบอกกับผมว่าเขาไม่สามารถทนผมได้


วงนั้นมีอะไรคล้ายกับ Mejibray บ้างไหม?
- ไม่เลยครับ นั่นเป็นวงสายฟ้าแลบ (หัวเราะ) คือ...ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ Decora กำลังฮิต ผมก็เลยทำสีผมของผมโดยย้อมด้านหนึ่งเป็นสีม่วง ผมอยากจะดูเหมือนวง Baroque


ตอนนั้นคุณแต่งเพลงด้วยหรือเปล่า?
- ไม่ครับ ผมยังไม่ได้แต่งเพลง ผมเล่นดนตรีไม่ได้สักชิ้น  ในตอนนี้ผมจริงจังกับการแต่งเพลงมาก แต่ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่วงเก่าของผมแยกวงผมยังมีประสบการณ์น้อยอยู่ แต่ผมก็เขียนเนื้อเพลงนะ
ในโรงเรียนผมชอบวิชาการเขียนนะ  ตอนเรียกประถมผมได้รับประกาศนียบัตรสำหรับการเขียนด้วยนะ และงานของผมก็ได้รับเลือกให้ตีพิมพ์ลงในหนังสือรวมบทกวีจากเด็กๆ ในเมืองที่ผมอาศัยอยู่
เด็กคนอื่นๆ เขียนในแบบของ fan letterเรื่องราวที่เขียนก็ประมาณความเมตตาจากหัวใจ ซึ่ง..นั่นเป็นตรีมของหนังสือ (หัวเราะ) ผมคิดว่าผมมีความสามารถทางด้านการเขียนบทกวีนะ


คุณก็ต้องมีความสามารถทางด้านนั้นสิ ไม่งั้นคุณจะชนะหรือ (หัวเราะ) แล้วคุณเขียนเกี่ยวกับอะไร?
- มีชื่อว่า “Manekko” ผมมีน้องชายห่างๆ ที่เกิดหลังผมไม่นาน ผมอ่านหนังสือและเขาเองก็มีหนังสือเล่มเดียวกัน มันเหมือนกับว่า...เราสองคนอ่านหนังสือนั้นด้วยกัน


เนื้อเพลงที่คุณเขียนในตอนนี้ก็ยังไม่ใกล้เคียงอะไรที่ทำให้อบอุ่นหัวใจ (หัวเราะ)
- ไม่...มันไม่ใช่เลย (หัวเราะ).


แต่ยังไงก็ตามเถอะ ทำไมคุณไม่ออกมาจากความวูปวาบแล้วตั้งใจทำอะไรที่ใคร่ครวญมากขึ้น มีทิศทาง มีความตั้งใจในงานดนตรีของคุณล่ะ?
- ผมช็อคนะตอนที่วงดนตรีวงแรกในชีวิตของผมต้องยุบวงไป มันเหมือนว่าผมมีชีวิตอยู่บนเปลือกของขนมปัง และชีวิตก็เป็นเรื่องยาก แต่เมื่อผมยืนอยู่บนเวที...ผมสามารถยิ้มออกมาได้
มันมีความแตกต่างระหว่างพวกเราและคนที่เข้ามาดูพวกเรา แต่กระนั้นเถอะ...พวกเราไม่มีหวังหรอก...จริงๆ นะ


ประสบการณ์ที่คุณลงไปถึงจุดที่ต่ำสุดแบบนั้นมีอิทธิพลต่อการเขียนเพลงของคุณไหม?
- ผมคิดอย่างนั้นนะ


เพลงทั้งหมดของคุณมีพื้นฐานมาจากประสบการณ์จริงอย่างนั้นสิ?
- มากกว่า 90% มาจากประสบการณ์จริงครับ

แม้กระทั้ง Itsuwari no Kamen - Jisatsu no Uta?
- นั่นเพลงของผมนะ มันเกี่ยวกับผมที่ถูกสอนอยู่ตลอดเวลาถึงสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญ เพลงนี้เกี่ยวช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิตของผม


นั่นเป็นสิ่งที่คุณคิดตอนที่คุณย้ายกลับไปอยู่กับแม่ใช่ไหม?
- ผมไม่สามารถคิดถึงเรื่องที่จะกลับไปอยู่บ้านได้แม้กระทั้งในตอนนี้ อาจเป็นแบบผมออกไปข้างนอกและผมแวะไปเยี่ยมสักแป๊บ แต่ถ้าย้ายกลับไปเลย อาศัยอยู่กับครอบครัวอีกครั้งและหางานทำ มันยากมากที่จะทำ
แต่ก็มีบางอย่างสิ่งที่ผมจะต้องบอกกับแม่ให้ได้ ดังนั้นผมจะลืมเรื่องทั้งหมด ดูนะ...แม่ของผมเป็นซิงเกิ้ลมัมนะ ตั้งแต่ผมโตขึ้นมาและวิ่งเล่นไปทั่วครัว ผมบอกเธอว่าเมื่อผมโตขึ้นผมจะดูแลแม่เอง
ดังนั้น...ผมก็ไม่รู้จะสู้หน้าแม่ยังไง เพราะความยุ่งยากในการต้องย้ายกลับ และก็อายด้วยที่ทุกอย่างผมมันออกมาแตกต่างกับที่คิดไว้ นั่นล่ะ...สิ่งที่ผมรู้สึกในตอนนั้น ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากตายซะ


เพราะประสบการณ์ตรงนี้ ทำให้การมองโลกของคุณเปลี่ยนไปและทำให้เราเห็น Mejibray ที่เป็นแบบนี้ใช่ไหม?
- ใช่ครับ แต่ว่าตอนที่วงก่อนหน้าจะมาเป็น Mejibray ยุบวงไป ผมคิดว่า...ผมจะเลิกเล่นดนตรีนะ มันเป็นทั้งหมดหรือว่า..มันไม่เคยมีอะไรเลย ดังนั้น...ก็ไปทำอะไรอย่างที่คนธรรมดาๆ เขาทำกัน
ผมไปทำงานพิเศษเป็นเด็กเสริฟในร้านอาหารเกือบๆ ปี แต่ทุกๆ วันมันน่าเบื่อมาก หลังจากนั้นสักพักผมคิดถึงเรื่องการทำวงเฉพาะกิจ  ผมคิดว่ามันคงจะดี แต่มันไม่เคยเกิดขึ้น
ผมรู้...ผมไม่สามารถรับได้หรอกแค่นั้นน่ะ แต่ผมก็บอกตัวเองว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายและผมเลือกที่จะเสี่ยง ผมอยากทำเพลงเพื่อความสำเร็จของผม ถ้าหากผมจะเอาอนาคตของผมไปเสี่ยง
อย่างที่ผมทำกับวงก่อนหน้านี้  อย่างน้อยผมก็จะเลือกสมาชิกในวงด้วยตัวผมเอง  จะต้องเป็นผมที่อยู่ตรงนั้น เพลงที่จะเผยความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา
อาจจะเป็นเรื่องที่น่าอายมากๆ  ผมจะเขียนเกี่ยวกับชีวิตของผมเองลงในบทเพลงของผม


และการตัดสินใจนั้นที่ทำให้เกิด Mejibray หลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมดนี้  มันช่วยไม่ได้นะ แต่...มันทำให้ผมรู้สึกว่าจริงๆ แล้วคุณเป็นคนที่มองโลกแง่ดีนะ
- ใช่ครับ ผมเป็นคนมองโลกแง่บวกนะ (หัวเราะ) วิธีที่ร้องเพลงที่ดีที่สุดคือ...การยิ้ม


ตัดสินได้โดยมุมมองของคุณเองในเนื้อเพลงที่คุณเขียน  มันดูเหมือนคุณมีความปรารถนาอันแรงกล้าในการทำลายล้าง
- ถ้าผมสามารถทำได้...ผมอยากมีชีวิตบนรอยยิ้มนะ  การได้ทำในสิ่งที่ผมรักทุกวันและกินอาหารอร่อยๆ ผมอยากมีชีวิตแบบนั้น แต่ก็แน่นอนล่ะ มันจะมีบางสิ่งที่ดึงคุณกลับไปทำสิ่งเหล่านั้นเสมอๆ
นั่นเป็นสิ่งที่ผมเห็นมา  สิ่งที่ไม่ดีจะสามารถค่อยๆ เติบใหญ่ได้ ในยามที่ทุกคนรู้สึกเศร้า พวกเขาจะรู้สึกว่าเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป  ผมคิดถึงช่วงเวลายากๆ เหล่านี้แล้วใส่ประสบการณ์ของผมลงไปในตัวหนังสือ
ผมเป็นคนที่ผ่านมันมาและคิดว่า "ก็ดี..ที่มันเกิดขึ้น แต่ผมจะทำให้ดีที่สุดและสู้ต่อไป"  นั่นเป็นวิธีที่ผมอยากจะทำเพลง



คุณก็เลยต่อสู้กับความจริงในบทเพลงของคุณ อือม...คุณเคยพูดว่าคุณรัก visual kei แน่นอน ทุกคนที่พูดก็คิดแบบนั้น แต่ว่ามีหลายคนที่เล่าอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้?
- Hahahahaha.

คุณไม่คิดอย่างนั้นหรือ?
- ใช่...ผมคิด ถ้าผมชอบอะไรอย่างสัก ผมจะพูดมันออกมา ผมก็มีช่วงเวลาที่ผมคิดว่ามันน่าอายเหมือนกันนะ


คุณคิดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
- ก็อย่างเช่นตอนที่ผมก่อตั้งวงด้วยตัวคนเดียวนั่นแหละ มันเหมือนกับว่า...ยกตัวอย่างเช่น ผมคิดว่าการได้ลงนิตยสารที่เป็นที่นิยมอย่าง Rock and Read!ผมรู้มาตลอด ผมจะถูกถามเกี่ยวกับวงที่ผมชอบ
และผมเติบโตมาแบบไหน (หัวเราะ) การพูดในฐานะของคนที่ทำงานดนตรีกับคนที่ฟังมัน ความภาคภูมิใจเป็นอุปสรรคนะ  ผมเป็นใครที่จะมาพูดว่าเพลงของผมมันเยี่ยมที่สุดและซื้อซีดีของผมนะ?
ผมเป็นคนที่จะพูดว่า "ผมซื้อซีดีของ the Gazette และมันเจ๋งมาก! พวกคุณควรจะซื้อมันนะ! ผมอยากแนะนำดนตรีดีๆ ให้พวกคุณรู้จัก ผมเป็นแฟนของวงที่กำลังแสดงอยู่บนเวที" (หัวเราะ)


คุณมีสัญชาตญาณที่เยี่ยมกว่าสิ่งที่คนฟังชอบ
- ยามที่ผมได้แนะนำแฟนๆ เกี่ยวกับวงที่ผมชอบ แล้วแฟนๆ ก็แนะนำวงดนตรีที่พวกเขาชอบให้กับรู้จัก ฐานของผู้ฟังจะขยายใหญ่ขึ้นนะ  ผมคิดว่ามันเจ๋งมากๆ และผมอยากจะได้ผลตอบแทนจากตรงนั้นเช่นกัน
ถ้าผมใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ผมรู้เลย...ว่าผมจะไม่สามารถเขียนเพลงดีๆ ได้  นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมจึงต้องการการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้อื่น


แต่ถ้าคุณเขียนเพลงแบบนั้น จะไม่มีคนพูดหรือว่า "โอ้...เพลงออกมาคล้ายกับวงนั้นวงนี้"?
- มันแตกต่าง เพราะไม่สามารถดึงเอาความรู้สึกของอีกเพลงใส่ลงไปได้หรอก นั่นแหละ...ผมจึงชอบพวกเขา (หัวเราะ) แน่นอน...มันจะมีส่วนที่คล้ายกันบ้างอย่างชัดเจน ถ้าคุณฟังเพลง คุณจะได้รับอิทธิพลจากมัน
เวลาที่ผมเขียนเพลง ผมจะตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าสิ่งที่ผมเขียนจะไม่ไปเหมือนกับเพลงของคนอื่น  ผมเป็นนักดนตรี ผมจะไม่มีวันทำอย่างนั้น (Admin-A / Tsuzuku หมายถึง การลอกหรือก๊อบปี้เพลง)



คุณคิดว่าคนที่พยายามจะลอกงานของคนอื่นนั้นไม่ดี?
- ใช่ แต่ว่ามันต่างกันนะ   การลอกงานของคนอื่น! มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง (ยิ้ม) ช่วงมัธยมและไฮสคูลผมเรียนเคนโด้ และสมาคมที่ผมเรียนอยู่จะมีการฝึกซ้อม ผมเรียนรู้เทคนิคต่างๆ จากการฝึกซ้อม
ทุกคนไม่มีใครคิดหรอกว่านั่นจะไม่เปลี่ยน มีการสอนมากมายตลอดเวลาที่ฝึกซ้อม นั่นล่ะ...ที่เป็นชัยชนะอย่างแท้จริงๆ


เจ๋งมาก! ดังนั้นจากการกลั่นกรองของคุณเอง ทำให้คุณแน่ใจว่าคุณไม่ได้ตัดอะไรออกไป โอเค..ดังนั้นตอนนี้ภาพลักษณ์ของ visual kei เป็นอย่างไรในความคิดของคุณ?
- ผมคิดว่า...แต่ก่อนแฟนจะอ่อนโยนและหลายๆ สิ่งจะดูผ่อนคลายกว่านี้  ในตอนนี้บรรยากาศมันไม่ค่อยดีอีกต่อไป มันเหมือนกับว่าลักษณะบางอย่างของแฟนๆ ที่จะพูดว่า เกลียดจอห์นนี่ย์กรุ๊ปมากแค่ไหน
หรืออะไรอย่างอื่นที่นอกเหนือจากวงที่พวกเขาชอบจะทำให้พวกเขาคลื่นไส้  ใช่ visual keiแน่ๆ หรือที่ทำให้เกิดผู้ต่อต้านขนาดนั้น?
คนอื่นคิดว่า ikemen จริงใจและอบอุ่นหัวใจเหมือนๆ กันหมด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่แต่งหน้าจนดูเหมือนกันจะเหมือนกัน  คนบางคนก็มีด้านมืดที่น่ากลัว (หัวเราะ)
แต่ผมเป็น gya-oh ผมชอบ Johnny's ถ้าแฟนไม่ฟังเพลงของพวกเขา พวกเขาก็ไม่มีวันไปไกลจนสุดขอบฟ้าได้


ดังนั้นเมื่อแฟนๆ ของคุณมีระบบความคิดที่ถูกต้อง  คุณจะไปถึงวันที่ประสบความสำเร็จได้ คุณคิดอย่างไรกับระบบความคิดนั้น? Mejibray คงไม่สามารถเลี่ยงได้และยังคงต้องไปต่อ
- ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกันนะ (หัวเราะ) ผมมีความเห็นเช่นเดียวกันกับเรื่องนี้ ผมชอบ the Gazette และได้ดูพวกเขาแสดงที่ Shibuya AX สำหรับผมการได้ขึ้นเล่นที่ไหนสักแห่ง
อย่างเช่น Budoukan ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวนิดๆ แต่ไม่ใช่ว่าถูกแยกออกจากกันนะ เพียงแค่ดูเหมือนว่าจะเชียร์ค่อนข้างยาก ในความเป็นจริง ผมชอบที่จะเชียร์และให้กำลังใจนะ
แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเหตุผลที่ดีหรือเปล่า


โอ้...ถูกต้องเลย  Mejibray มีแฟนๆ ที่เป็นผู้ชายด้วย แน่นอนคุณมีแฟนๆ ผู้หญิงเช่นกัน แต่การมีทั้งสองเพศสนับสนุนคุณ มันเป็นอะไรที่ภาคภูมิใจมากสำหรับวงดนตรีนะ
- ใช่...นั่นทำให้ผมมีความสุขมากๆ


มองย้อนกลับไปในวันที่คุณยังเด็ก อะไรที่คุณอยากบอกกับเด็กๆ ที่อยากเข้ามาสู่วงการ visual kei เหมือนอย่างคุณบ้าง?
- มีมืออาชีพมากมายที่เริ่มต้นเล่นดนตรีตั้งแต่ยังเรียนมัธยมหรือไฮสคูล ส่วนผมไม่มีประสบการณ์ตรงนั้น แต่ผมอยากตั้งวงดนตรีผมก็ตั้ง แต่มีอะไรบางอย่างที่ผมอยากบอกเด็กๆ ที่อยากเข้ามายืนตรงนี้
มีอย่างหนึ่งที่ผมอยากบอกพวกเขา  ผมไม่อยากให้ใครต้องเจ็บปวดเหมือนที่ผมเคยเป็น  ตอนนี้...ทุกๆ วันเป็นวันที่ดี ผมมีเพื่อนๆ ในวงและคนอื่นๆ ที่คอยสนับสนุนผม
มันเจ็บปวดมากที่ต้องอยู่อย่างหิวโหยและแม้กระทั้งว่ามีใครสักคนบอกว่ามันไม่ใช่  แต่จริงๆ แล้วมันใช่  จะมีช่วงเวลาที่คุณไม่มีไลฟ์จะเล่น แม้กระทั้งตอนที่คุณไม่มีอะไรจะกิน
จำไว้ว่าคุณยังมีเพลงที่จะร้อง (หัวเราะ) ผมผ่านมันมาแล้วและตอนนี้ผมอยู่ตรงนี้ เพื่อที่จะบอกในสิ่งเดียวกันกับทุกๆ คนที่อยากจะเล่นดนตรีเหมือนกัน


แต่คุณมีความสนใจและสิ่งนั่นที่ทำให้คุณสามารถก้าวเดินต่อไปและมีความสุขกับสิ่งที่คุณหวัง
- ใช่ครับ ผมอยากจะอยู่ในวงดนตรีที่ทำเพลงออกมาแล้วใครๆ ก็อยากจะซื้อผลงาน นั่นเป็นความคิดที่ดี ตอนที่ผมอยู่ในความหวังอย่างที่สุด ไฟฟ้าที่บ้านถูกตัด (ยิ้ม) ในตอนนั้นผมทำงานตอนกลางคืน
กลับมาถึงบ้านในตอนเช้าแล้วก็นอนหลับ พอตื่นขึ้นมาโทรศัพท์ของแบตหมดไปแล้วทั้งๆ ที่ผมเสียบปลั๊กชาร์ตไว้ มันแย่มากนะที่ไฟฟ้าถูกตัดและผมจำได้ว่าผมหมดหนทางจริงๆ
แต่ผมก็ไปอาบน้ำแล้วก็นึกถึงว่าแล้วผมจะรีบไปทำงาน แต่ว่าไฟฟ้าโดนตัดดังนั้นก็ไม่มีน้ำร้อนให้อาบเช่นกัน  ผมก็เลยต้องสระผมในอ่างล้านจานแล้วก็ใช้ไดร์เป่าผมไม่ได้ด้วย (หัวเราะ)
ผมไม่มีทางเลือกแต่ต้องรีบไปทำงานทั้งๆ ที่ผ้าขนหนูยังพันอยู่บนหัว


มันคงจะยากมากเลยสินะ (ยิ้มแห้งๆ) แต่คนที่พูดว่า พวกเขาจะดูแลตัวเองและสามารถทำได้ก็เป็นอะไรที่วิเศษนะ
- ไม่...แต่มันเป็นความจริง

ตอนที่คุณอยู่ในช่วงเวลานั้นคุณก็ไม่ได้สิ้นหวังใช่ไหม?
- ผมไม่สามารถทำได้ (หัวเราะ) ถ้าตอนนั้นผมชอบคอสเพลย์ ผมคงเห็นตัวเองกำลังเล่นเป็นผู้ชายที่กระโดดเข้ามา ผมบอกตัวเอง ผมต้องสู้ต่อไปและผมก็ทำ ผมอยากให้มีคนมากขึ้นมากขึ้นมาชมโลกของวิชวล ไม่ใช่แค่คนที่จะซื้อแค่ซีดีของ Mejibray



ฟังแล้วดูดีมากๆ
- ผมไม่อยากเป็นคนเจ้าอารมณ์ และแน่นอน...ผมไม่อยากให้คู่แข่งของผมประสบความสำเร็จในช่วงเวลานี้ แต่ที่ผ่านมาผมมองว่า ถ้าเราสามารถเติบโตไปพร้อมๆ กัน
จะมีคนที่คิดว่าวงดนตรีวงอื่นนั่นมันแย่และพวกเขาสมควรแยกวง  แต่ไม่มีใครมีสิทธิ์คิดอย่างนั้นหรอกนะ ไม่ใช่ว่าวงวิชวลทุกวงมองหาในสิ่งเดียวกันหรอกหรือ?
ไม่ใช่ว่ามีผู้คนบนโลกนี้ที่ยังไม่เคยได้ยินแม้แต่คำว่า visual kei? แต่วงการนี้กำลังร้อนแรงเพราะว่ากำลังเติบโตและเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมอยากให้วงของผมสามารถที่จะช่วยเหลือวงอื่นๆ สร้างงานเพลงที่ดีๆ เท่าที่พวกเราจะสามารถทำได้


คุณจะให้ความสำคัญกับวงก่อนที่จะเป็นตัวคุณงั้นหรือ?
- แน่นอน  คุณสามารถเดินต่อไปในโลกของ visual keiโดยที่ไม่ต้องสูญเสียอะไรไปเลย ผมต้องการที่จะก้าวเดินต่อไปสู่อนาคตที่ดี


T/N

[1] http://en.wikipedia.org/wiki/Kamen_Rider

Special Thank:  http://hanakotobatranslations.blogspot.ie
Photo credit : http://ayaheartsuruha.tumblr.com/