Tsuzuku's tweet:
Tsuzuku: ตราบใดที่คุณยังมีชีวิต แน่นอนว่า..คุณจะได้พบกับบางสิ่ง ถ้าคุณไม่มีชีวิตแล้ว คุณก็จะไม่รับรู้สิ่งใดๆ ไม่มีความสุข ไม่มีความทุกข์ ไม่ต้องเจ็บปวด
Tsuzuku: หากมีบางสิ่งบางอย่างที่คุณสามารถระบายมันออกมาได้ คุณก็ควรทำใช่ไหมล่ะ? เพราะคำพูดนั้นที่คุณไม่ยอมพูดมันออกมาจะเฝ้าตามหลอกหลอนคุณไปตลอดกาล
มันอาจจะไม่ง่ายนัก แต่ถ้าคุณไม่พูดมันออกมา คุณจะเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น การมีชีวิตอยู่น่ะ มันคือการที่เราจะผ่านปัญหามากมาย จะไม่มีความเจ็บปวดหากว่าเราแข็งแกร่งมากพอตั้งแต่ก้าวแรก
ไม่สำคัญหรอกว่ามันจะเล็กมากแค่ไหน เพราะตั้งแต่ก้าวแรกเล็กๆ ก้าวนั้นมันก็ยากแล้ว
Tsuzuku: แต่ผมสงสัยว่าถ้าหากการมีความทุกข์นั้นหายไปเป็นสิ่งที่ไม่ดีจริงๆ เพราะว่า...เรายังมีชีวิตอยู่และนั่นเป็นความเจ็บปวด ดังนั้น...การได้รู้สึกเจ็บปวดบ้าง เป็นทุกข์บ้าง
มันก็น่าจะเป็นความสุขอย่างหนึ่งนะ...ใช่ไหม? เพราะว่า...มันไม่ใช่เพียงแค่พวกเราอยู่ที่นี่เพียงเพื่อจะอาศัยอยู่
Tsuzuku: มันเยี่ยมนะที่ได้คิดเกี่ยวกับ [ความหมายของการมีชีวิตอยู่คืออะไร?] คุณจะไม่มีวันได้คำตอบหรอก แต่การใช้ได้สมองของคุณแบบนี้ พยายามที่จะทำความเข้าใจกับความหมายของการดำรงอยู่ของคุณเอง
นั่นอาจจะเป็นความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่ และนั่นเป็นอะไรที่เยี่ยมมาก นี่แหละ...มนุษย์
Tsuzuku: ผมหวังว่าเวลาที่เหมาะสมจะมาถึงในยามที่ผมสามารถเผชิญหน้ากับเวลาในทุกๆ วันด้วยรอยยิ้ม ผมหวังว่าเวลาที่เหมาะสมจะมาถึงในยามที่ผมสามารถดึงความเจ็บปวดและความยุ่งยากต่างๆ ออกไปด้วยรอยยิ้ม
ผมคิดถึงสิ่งเหล่านี้ทุกวัน ...✡ขอให้ที่นั่นมีแสงนำทางสำหรับทุกๆ คน
Tsuzuku: โอเคๆ อย่าเครียดไป!!!! ฟังนะ ทุกๆ คน...「ชีวิต!!!」 ทำมันให้ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ เพราะว่ามันเพียงพอแล้วกับการจะก้าวไปสู่อาณาจักรชีวิตของคุณเอง
English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
Mejibray Thailand
Hi...ยินดีต้อนรับพี่ๆ น้องๆ เพื่อนพ้องทุกท่านสู่ "บ้าน Mejibray Thailand"จ้า...บล๊อคนี้จะเป็นสรุป MejibrayTH's Mission ในแต่ละวัน จาก Facebook ของบ้านเรานะคะ ส่วนที่รวบรวมมาลงไว้จะเป็นแปล Tweet & Blog ของสมาชิกทั้งสี่คนจ้า **เราไม่ได้แปลทุกทวีตและทุกบล๊อคนะคะ เลือกมาที่น่าสนใจๆ โดยแปลมาจากต้นฉบับแปลจากญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษแล้วเรามาแปลไทยอีกต่อหนึ่งค่ะ** แต่ในส่วนของรูปจะไม่นำมาอับลงในนี้นะคะ ยังไงติดตามได้ที่ Facebook ของบ้านเราค๊า
Wednesday, January 30, 2013
Thursday, January 17, 2013
Happy Birthday to me+0
---------------------------------------------
Meto’s blog:
☆*happy birthday☆
*ตอนนี้...ผมเข้าใกล้การเป็นมนุษย์ไปอีกหนึ่งก้าวแล้ว
*ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกข้อความ!!!
*ผมมีความสุขมาก!!
*me+0 ไม่ชอบ...มนุษย์...
*ด้วยเหตุนั้นแหละ...ผมถึงเป็นตุ๊กตา...
*ด้วยเหตุนั้นแหละ...ผมถึงพูดไม่ได้
*ขอโทษนะ…
*แต่...รอก่อน
*ต่อไปผมก็จะ..19.!!
*ผมจะรอนะ!!
English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
Wednesday, January 16, 2013
[Thai Trans] Tsuzuku's column at Shoxx Vol.238
TSUZUKU’S SHOXX COLUMN #1
Original English Translation by http://heresiarchy.tumblr.com/post/40672846895/tsuzukus-shoxx-column-1
Original Thai Translation by Mejibray Thailand
(ผู้แปลภาษาอังกฤษ / ไม่ประหลาดใจเลยกับการเขียนบทความครั้งแรกของ Tsuzuku เพราะเขาเขียนเกี่ยวกับ S&M…)
MEJIBRAY・Tsuzuku’s “Connective System” #1
ยินดีที่ได้พบกันทุกๆ คนนะครับ
ผม Tsuzuku จากวง MEJIBRAY ผมดีใจมากๆ ที่ฝันของผมในการที่จะได้มีคอลัมน์เป็นของตัวเองเป็นจริง
ผมมักจะถูกชมอยู่เสมอๆ ตอนที่ผมพยายามที่จะเริ่มต้นเขียน โครงร่างของบทความนี้ ผมรู้สึกเหมือนกับว่า...ผมจะเขียนอะไรดี?
ผมพยายามคิดถึงมันครั้งแล้วครั้งเล่าและในตอนนี้กำหนดส่งต้นฉบับก็ใกล้เข้ามาแล้ว ถ้างั้น...สำหรับการเขียนครั้งแรกนี้ ผมจะเขียนเรื่อง “SM”
ถึงแม้ว่าคุณจะเขียนมันออกมาธรรมดาๆ แค่ “SM” แต่มากกว่านั้น...คุณคิดกับมันอย่างไร แล้วยังเพิ่มเติมมากไปกว่านั้นอีก
บวกในส่วนของการตีความและพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลต่างๆ จุดนี้จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยังมี direct SM (*1) และ psychological SM อีกด้วย
ดังนั้น...ในเรื่องที่เราจะคุยกันตอนนี้ ทำไมเราไม่เรียกมันว่า “Tsuzuku-style SM”ล่ะ?? ผมจะมีความสุขมากๆ ถ้าหากคุณสามารถรับมันไปแบบ "Ah…มีวิธีในการคิดแบบนี้ด้วย"
ก่อนอื่น...จดไว้เลยนะว่า...ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผมจะคุยเกี่ยวกับ “SM” ในแบบสบายๆ ไม่ใช่แบบอาการโรคจิต (mental disorder)
“เพราะว่าผมเป็น S~” เป็นสิ่งที่ผมมักจะได้ยินเสมอจากคุณๆ สุภาพบุรุษและผมคิดว่า "อะไรทำให้คุณเรียกตัวเองว่าคุณนั้นเป็น?"
ในทางตรงกันข้ามก็เช่นเดียวกัน มนุษย์เพศชายส่วนใหญ่นั่นแหละ มักจะพูดว่า "เพราะว่าผมเป็น S" เพื่อจะยืนยันความเข้มแข็งของเขาด้วยคำนี้
(แต่ในส่วนของผู้หญิง คุณควรจะหยุดพูดว่า "เพราะว่าฉันเป็น M" ต่อหน้าผู้ชายนะ โอเคไหม?)
คือ S ใช่ไหม..ที่ใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองกดบางคนให้ต่ำลง? การทำร้ายใครสักคนคือการแสดงออกของ S?
ผมไม่ได้พูดว่าที่ยกตัวอย่างมาทั้งสองแบบนั้นไม่มีนะ ผมคิดว่า...ดูเหมือนว่าจะมีคนเยอะแยะมากมายที่ไม่เข้าใจ ความรักและความเอื้ออาทรระหว่างเขาทั้งสองที่ทำสิ่งเหล่านั้น
มีผู้ชายมากมายที่มักจะพูดว่า "ผมเป็น S ดังนั้นผมไม่ชอบการถูกรังแก" พวกเขาพูดแบบนั้นเพราะว่าพวกเขาไม่เข้าใจประเด็นของ SM โดยสิ้นเชิง
รูปแบบชีวิตของพวกเราน่ะสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด ดังนั้นคนที่ชอบความเจ็บปวดมากๆ ก็อาจจะไม่มี ผมรู้สึกว่ามันไม่เป็นไรหรอกหากคุณจะทำบางสิ่งกับคู่ของคุณ
ในขณะที่คุณทั้งสองคนรู้จักเวลาที่เหมาะที่ควร, สถานที่และความรุนแรงที่จะไม่ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหากคุณทำร้ายเขา (*2)
ถ้าหากคุณพยายามจะทำ direct SM ก่อนที่คุณจะรู้จักสิ่งเหล่านั้นแล้วคุณทั้งคู่จะมีความสุข
ในความเป็นจริงแล้ว sadists คือร่าง masochistsของคุณเอง Sadists ควรจะเป็น sadomasochists ด้วยซ้ำไป...ผมคิดแบบนี้นะ
เพิ่มอีกนิด...สิ่งที่ผมต้องการพูดก็คือ บางทีคนที่เป็น masochists อาจจะรู้ดีถึงข้อจำกัดของพวกเขาที่จะจบลงด้วยการเป็น sadists หรือเปล่า? เป็นเรื่องทำนองนั้นนะ
ด้วยข้อจำกัด...ผมหมายถึงจุดแตกหัก อือมม...ถึงแม้ว่าผมจะใช้คำว่า "แตกหัก" แต่ผมไม่ได้หมายความว่า "แตกหัก" ในทางกายภาพนะ
แต่หมายถึงทางด้านจิตใจแตกหักนั่นเอง มีสิ่งนี้นี่แหละที่จะทำให้น้ำหยดลงบนหัวของคุณติ๊งๆ ซึ่งสิ่งนี้มันเป็นรูปแบบหนึ่งของการทรมาณ
คุณเคยคิดไหมเหล่าว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นกับคุณ? หากคุณรู้ถึงข้อจำกัดของคุณเอง คุณก็อาจจะนำไปสู่จุดที่ดีของความบ้าคลั่งได้ (*3)
และถ้าหากมันไม่ใช่แค่การแสดง SM แต่กลับเป็นใครบางคนพยายามที่จะทำสิ่งนั้นกับคุณจริงๆ ล่ะ?
ถ้าหากใครสักคนกำลังใช้มันกับบุคคลที่สามในลักษณะดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานหรือว่าความรักล่ะ?
ฟังดูเหมือนเรื่องน่าขัน แต่...มีคนที่เป็นแบบนั้นจริงๆ เหมือนกันนะ ลองคิดดูมันน่่ากลัวนะ...หรือไม่ใช่? ถ้าคุณพยายามทำสิ่งเหล่านั้นกับตัวคุณเอง
ชีวิตของคุณจะเหมือนถูกติดตามโดยที่คุณไม่เคยสังเกตุเห็นเลยและหรือไม่ก็...ในที่สุดมันจะจบลงโดยที่คุณเองจะไม่เข้าใจแม้แต่โลกของคุณเอง
ถ้าคุณมีชีวิตอยู่ จิตใจของคุณเป็นสิ่งที่ถูกใช้อยู่ตลอด การล้อเล่นกับ SM ก็อาจะเป็นไปได้ว่า ชีวิตของคุณนั้นเป็นเรื่องเล่นๆ
คนไม่สามารถอยู่ตัวคนเดียวได้ แม้กระทั้งการเกิดมาของคุณก็เพราะมีคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย — ยกตัวอย่างก็ พ่อกับแม่ของคุณไง
ได้รับการเลี้ยงดูมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งของคุณเองเท่านั้นหรอก เช่นเดียวกัน...คุณสามารถทำงานได้เพราะว่ามีคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย
และผมเขียนบทความนี้ก็เพราะมีคนอื่นๆ อยู่...เช่นกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้ากับผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นเรื่องสำคัญมากๆ และมันจะเป็นวัฎจักรเช่นนั้นไปตลอดจนชั่วชีวิต
จงขอบคุณที่ยังมีชีวิตอยู่ ในยามที่คุณอกหัก จะเป็นอย่างไรหากจะพยายามเปลี่ยนการเอาชีวิตไปผูกติดไว้กับใครสักคน?
ความที่รู้สึกที่เกิดขึ้นจากสิ่งนั้นอาจจะนำพาคุณคนใหม่มา บางสิ่งเช่น…“เธอนั่นแหละ masochist”?
ยังมีอะไรอีกมากมายที่ผมอยากจะเล่า แต่ตอนนี้...ต้องจบลงแค่นี้ก่อนนะ
―Tsuzuku
______
*หมายเหตุจาก ผู้แปลภาษาอังกฤษ*
1. เขาใช้ตัวอักษรที่มีความหมายว่า “direct SM” ฉันก็เลยใช้ตามไปเช่นนั้น ถึงแม้ว่าในฝั่งตะวันตกจะใช้คำว่า idk เขาเพียงแค่หมายถึงการแสดงออกทางร่างกาย แต่ฉันคิดว่าคุณเข้าใจมันนะ
2.Okay, ตรงนี้มันฟังดูแปลกๆ เพราะว่าเขาใช้คำแปลกๆ แต่เหมือนกับว่า เขาต้องการจะบอกว่าการ "ทำร้าย" คนอื่นเป็นเรื่องที่ไม่น่ายอมรับได้
3.เขาพูดถึงการหยดน้ำลงบนหัวเพื่อเป็นการทรมาณแบบจีน ซึ่งจะสามารถทำให้คุณเป็นบ้าได้เลยทีเดียว
ฉันหวังว่า ฉันอธิบายทุกอย่างกระจ่างพอนะ เพราะว่า Tsuzukuมีแนวโน้มว่าจะใช้คำที่ไม่มีเหตุผล! เช่นเดียวกับที่...เขามีวิธีแปลกๆ ในการแสดงตัวตนของตัวเอง
และฉันไม่คิดว่าฉันเข้าใจมันมากพอที่จะจับประเด็นคำพูดเขาได้ ยังไงก็..ยกโทษให้ฉันด้วยนะ :c ฉันหมายถึง...ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ว่าเขาพูดถึงอะไร
เพียงแต่ฉันอยากจะนำความเป็นตัวตนของคำพูดเขาผ่านไปยังคุณทุกคน...ฉันจะพยายามแปลบทความอื่นๆ ของเขา
ถ้าหากฉันสามารถได้มันมา ฉันคิดว่า...ฉันจะเข้าใจมันได้ดีมากยิ่งขึ้น
-----------------------
หมายเหตุจาก Admin A:
ตอนจบของบทความในประโยคที่ว่า “เธอนั่นแหละ masochist” เหมือน Tsuzuku ต้องการจะสื่อว่า เธอคนนั้นกลายเป็นคนใหม่
ที่หลุดพ้นจากความเป็น masochist แล้วกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งไม่อ่อนแออีกต่อไป และเธอคนนั้นเป็นคนที่เรียกคนที่ทิ้งเธอไปว่าคนนั้นต่างหากที่อ่อนแอ
คนนั้นต่างหากเป็นคนที่ถูกทำร้าย คนๆ นั้นนั่นแหละที่เป็น masochist แอดมินเข้าใจแบบนี้นะคะ
Special Thanks :: http://heresiarchy.tumblr.com
Tuesday, January 15, 2013
MejibrayTH's Mission 20130115
Koichi’s blog:
Tonight。
หิมะตก
มันเป็นอะไรที่สวยมากๆ เลย เห็นแล้วมีความสุขนะ
อนาคตเนี่ยก็เหมือนกับกระดาษสีขาว
แต่ผมชอบช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่แบบนี้
เหมือนกับว่า...ผมต้องยอมรับมัน
…หลังจากนั้นแล้ว ชีวิตก็เป็นสิ่งสวยงาม
แล้วเจอกันนะ (´・ω・`)
English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
MiA’s blog:
Kokokokokoko
ตอนนี้ไอโฟนของผมเป็นแบบนี้นะ ♡
ครั้งก่อน (∩`ω)⊃≡⊃DouKuShi♡
ไอโฟนของผมหล่นลงมากจากสะพาน แต่ว่าข้างใต้สะพานน่ะ มีหิมะอยู่ ไอโฟนของผมจึงไม่เป็นอะไร ♡
English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
RT Tsuzuku san ตอนนี้ฉันรู้สึกเกลียดตัวเองมากๆ ฉันไม่รู้ว่าฉันจะสู้ไปเพื่ออะไร ฉันคิดว่า..ฉันทำทุกอย่างดีที่สุดเท่าที่ฉันจะสามารถแล้ว แต่มันเหมือนกับว่า ในสายตาของคนอื่นสิ่งที่ฉันทำนั้นไม่มีค่าอะไรเลย
Tsuzuku’s tweet:
ไม่ต้องไปแคร์คนอื่นเลย มันไม่ดีเหรอที่คุณเป็นตัวของตัวเอง ใจเย็นๆ นะ แล้วค่อยๆ ก้าวเดินต่อไป
Tsuzuku’s tweet:
ไม่ต้องไปสนใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่มีชีวิตอยู่อย่างที่เป็นตัวของคุณเอง นั่นน่ะดีแล้ว มีชีวิตอยู่และแสดงออกอย่างที่คุณคิดว่ามันดีก็พอแล้ว
ถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่รู้ว่า คุณจะสามารถปลดปล่อยมันออกทั้งหมดได้หรือไม่ แต่การค่อยๆ ปลดปล่อยมันออกมา ในช่วงเวลาที่คุณยากลำบาก
แล้วโยนทั้งหมดนั้นใส่ไปที่คนอื่นนั่นก็โอเคเหมือนกันนะ อย่าไปสนใจช่วงเวลาที่ยากลำบาก อย่าไปสนใจในสิ่งที่คุณไม่รู้ แม้กระทั้งที่สิ่งที่คุณคิดถึงอยู่ ยังไง...คุณก็เป็นตัวของคุณเอง
English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
Labels:
blog,
Koichi,
mejibray,
mejibray thailand,
mejibrayth,
Meto,
MiA,
thai,
Translation,
Tsuzuku,
twitter
Monday, January 14, 2013
MejibrayTH's Mission 20130114
Tsuzuku’s secret blog:
Cold
วันนี้เป็นวันหยุดของผม งั้นก็อยู่จนดึกได้
Avalon MV
Documentary
DIE KUSSE MV
DIE KUSSE B type BLAZE Oneman live’s movie
ตอนที่ดู..ผมดื่มเบียร์ไปด้วย
ผมใส่เสื้อยืด
หนาวจังเลย
แต่เดี๋ยวพอผมจะไปนอน ก็จะถอดเสื้อผ้าออกหมด
วันนี้ก็ขอพักผ่อนสบายๆ สักหน่อย...
ได้ดู DVD ที่เช่ามาด้วย
ผมจะเขียนถึงมันที่หลังนะ
Tsuzuku
English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
MiA’s tweet:
วันนี้ผมขึ้นรถไฟผิดสายแล้วก็ทำให้มาถึงออฟฟิคช้าและทางออฟฟิคไม่ให้เบนโตะกับผม ดังนั้น...ผมจะไม่เขียนบล๊อคอีกแล้ว
MiA’s tweet:
แต่ยังไงก็เถอะ มีอยู่ 3 คนที่ไม่ได้เบนโตะ o(TωT )Funyun。
Yokohama ขอบคุณนะ!(∩`ω)⊃≡⊃DouKuShi♡
MiA’s tweet:
แต่มีอยู่คนหนึ่งนะที่เขาไม่มาสาย คนนั้นคือ M-shi*!(∩`ω)⊃≡⊃DouKuShi♡
*ผู้แปลภาษาอังกฤษ / ฉันคิดว่า M-shi=Meto xD;
English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
Koichi’s blog:
0113 Kashiwa ThumbUp。
ขอบคุณ
ครั้งแรกของ MEJIBRAY ที่ Chiba ประสบความสำเร็จ
และนี่เป็นครั้งที่สองที่เราเล่นเพลงใหม่
เป็นยังไงบ้าง (´・ω・`)
ส่วนสุดท้ายท่อนแรกของเพลงใหม่เป็นเบสโซโล่ ก็เลยเหมือนกับมีผมเหลืออยู่แค่คนเดียว (´・ω・`)
ตอนนี้ผมกำลังเลือก "อะไรเจ๋งๆ" เพื่อที่จะใช้ในตอนนั้น ดังนั้น...โปรดตั้งตารอชมกันให้ดี (´・ω・`)
ไลฟ์ต่อไปที่ Urawa Narciss。
(´・ω・`)
4 man tour ตอนนี้มาถึงครึ่งทางแล้ว (´・ω・`)
FuFu(´・ω・`)
แล้วเจอกันนะ(´・ω・`)
English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
Meto’s blog:
*0113
*มันเจ็บมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก…………
*ต่อไปที่…urawa..!!!!
*แล้วเจอกัน!!!!!
English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
Sunday, January 13, 2013
MejibrayTH's Mission 20130113
MiA’s tweet:
ตั้งแต่ความรู้สึก "โศกเศร้า"ของผมหายไป
MiA’s tweet:
มันแย่นะ..ที่ผมไม่มีความรู้สึกโศกเศร้าเสียใจ
MiA’s tweet:
ตั้งแต่คริสมาสแล้วล่ะ ที่ผม..............อยากมีแฟน!
RT MiA kun ชอบผู้หญิงแบบไหน? คนที่สดใส? หรือผู้หญิงที่นุ่งกระโปรง? (´・ω・`)
MiA’s tweet:
ถ้าให้ผมเดาคงเป็นผู้หญิงแบบที่.................ชอบกีต้าร์ Flying V (´・_・`)♡
MiA’s tweet:
กลับมาเรื่องที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ สำหรับผมนะ การที่ไม่มีความรู้สึกโศกเศร้าเสียใจเนี่ย คือ ถ้าผมยังเก็บความเศร้าเหล่านั้นไว้ ผมจะทำอะไรเชื่องชามาก
นั่นแหละ...ผมก็เลยอยากเปลี่ยนไปสู่ 「mortifying」 แล้วใช้มันเป็นพลังของผม
MiA’s tweet:
เวลาที่ผมจะเลิกเป็นนักดนตรีคงจะเป็นเวลาที่ผม "สิ้นหวัง" มากกว่า "ความหวัง"
MiA’s tweet:
MEJIBRAY…แบกชีวิตของคนมากมายไว้บนหลัง บางที...อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่...ผมจะทำให้มันประสบความสำเร็จและมีผลงานที่ดี
MiA’s tweet:
ผู้คนที่อยู่ร่ายรอบตัวของผม ผู้คนที่สนับสนุนผม ผู้คนที่เกี่ยวพันกับผม ผมจะทำให้พวกคุณมีความสุข...รอนิดหนึ่งนะ
MiA’s tweet:
ตอนที่ผมได้ยินมาว่า ที่ Brazil มีการเคลือนไหวเรียกร้องเพื่อนที่จะให้ Mejibray ไปแสดงสดที่นั่น ผมมีความสุขมากจริงๆ นะ ผมอยากจะไปแสดงสดที่นั่นให้เร็วที่สุด!
English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
Koichi’s blog:
Safely
ผมประสบความสำเร็จในการกลับมาจาก Kyanagawa ถึง Tokyo โดยสวัสดิภาพ (´・ω・`)
แต่ก็มาถึงช้ากว่าเวลา (´・ω・`)
ผมจะเขียนเกี่ยวกับการแสดงวันนี้ที่หลังนะ (´・ω・`)
แล้วเจอกัน (´・ω・`)
-----------------------------------
Koichi’s tweet:
{…ฆ่าคนหนึ่งคน...คุณกลายเป็นฆาตรกร, ฆ่าคนมากมาย...คุณกลายเป็นฮีโร่, ฆ่าคนทุกคน...คุณกลายเป็นพระเจ้า
English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
Meto’s blog:
*Good morning
*0112
*วันนี้ผมก็ยังคงรออยู่เหมือนเดิมนะ!!!!!!
English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
Tsuzuku’s blog:
2013.01.13 Yokohama F.A.D
วันนี้พวกคุณทำได้ดีมากๆ
ผมใส่ไปอย่างเต็มที่แบบไม่ยั่ง
ผมคิดว่า...ผมคงจะตายเลยทีเดียวนะ
ใบหน้าของทุกๆ คน มหัศจรรย์มากๆ เลย
1.Avalon
2.Black baccarat
3.Sabato
4.Wrath of GOD
5.KILLING ME
6.VIOLET
7.D.E.INCUBUS
8.Toroshina
9.Karma-瓦礫のマンティコーラース-
ไลฟ์ครั้งแรกสำหรับปีนี้ของ MEJIBRAY ช่างเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมาก
วันนี้จะแสดงที่ Kashiwa。
วันนี้ขอให้คุณสนุกตั้งแต่ต้นจนจบนะ แล้วคุณจะไม่มีวันเสียใจเลย
คุณรักผมไหม?
Tsuzuku
English Translation by http://killingme69.tumblr.com/
Thai Translation by Mejibray Thailand
Tuesday, January 8, 2013
MejibrayTH's Mission 20130101-08
Tsuzuku’s tweet:
ผมท่องเวปแล้วก็ไปเจอรูปเก่าๆ ของผม 4 Lip Piercing, Madonna Piercing, 2 eyebrow Piercing, Anti-eyebrow Piercing, Madison Piercing ฉีกไปแล้ว และ make-up ก็แย่มาก
Tsuzuku’s tweet:
ผมด้านหน้าสั้นมากๆ เลยーーーー
English Translation by mejibray-translate
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
Sho: "ผมอยากกินอาหารที่ Tsuutan ทำจังเลย”
Tsuzuku: "อยากให้ฉันทำอะไรล่ะ?”
Sho: "ผมอยากกินอะไรที่กินแล้วสดชื่นอย่างเมื่อก่อนอีกครั้งน่ะ แล้วก็แครกเกอร์ที่มีท๊อปปิ้งเยอะๆ อร่อยๆ แล้วมี Tsuzuku เป็นอาหารจานหลักนะๆๆ ได้โปรด"
Tsuzuku: "ไม่ต้องมายุ่งกับฉันเลย!!!!”
English Translation by http://visual-things.tumblr.com
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
Meto’s blog:
*Pack
*มาดูและผิวพรรณของเรากันเถอะ ♪
*Ee……….
*ยาพิษ!?!?
*ยาพิษ!?!?!?
(ผู้แปล / เพราะคำว่า Synake ไปพ้องกับคำว่า snake เมโตะก็เลยบอกว่าแผ่นมาร์คหน้าอันนี้เป็นยาพิษ) D8
———————————————————————————
meto’s blog:
*2013
*Happy….. new year_
*ปีนี้ก็เช่นเดิม….yoroshikuonegaishimasu!!!!!!!!
*ขอให้สนับสนุน….MEJIBRAY..มากขึ้นและมากขึ้นนะ!!!!!!!!!
English Translation by mejibray-translate
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
Koichi’s blog:
Lately。
earphone ของผมพังอยู่เรื่อยๆ ดังนั้น...ตอนนี้ผมก็เลยเปลี่ยนมาใช้ headphone (´・ω・`)
คือไงล่ะ...(´・ω・`)
ผมพยายามที่จะโชว์ว่า... ‘ผมฟังเพลงนะ’
จากลุคนี้ (´・ω・`)
อือม (´・ω・`)
เวลาที่เอาวางไว้ในรถ ดูเหมือนว่าจะไปกันด้วยดีทีเดียว (´・ω・`)
ปัญหาน่ะ...ไม่มีทางจบหรอก (´・ω・`)
…ตอนนี้ DIE KUSSE อยู่ในขั่นตอนสุดท้ายของการทำงานแล้ว
(´・ω・`)
วันนี้...ผมจะทำงานอย่างเต็มที่
แล้วเจอกันนะ (´・ω・`)
—————————————————————————————
Koichi’s blog:
0105 jishubanclub。Like en Edison Tokyo。
Happy new year。instore event ครั้งแรก
นี่เหมือนเป็นคำขอบคุณ
Koichi กำลังโตขึ้น ใส่กิโมโนและกำลังอวยพรปีใหม่ (´・ω・`)
ถ้างั้นก็ (´・ω・`)
ใส่กิโมโนแล้วขยับตัวยากจริงๆ (´・ω・`)
ปีนี้...ผมก็ยังคง Yoroshiku(´・ω・`)
อยากขอบคุณตลอดเวลาเลยนะ
…ผมมีความสุขที่คุณมาแม้กระทั้งในวันที่หนาวมากๆ แบบนี้ แต่...ระวังอย่างให้ตัวเองเป็นหวัดนะ (´・ω・`)
I’m happy that you came even in this cold weather。But don’t catch a cold
แล้วเจอกันนะ (´・ω・`)
English Translation by mejibray-translate
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
MiA’s blog:
Hat(=^・ω・^)ノNyaHa♡
เมื่อวานเป็นแบบนี้ (∩`ω)⊃≡⊃DouKuShi♡
อ่อนๆ เนอะ*꒰๑´•.̫ • `๑꒱
(=^・ω・^)ノNyaHa♡
(ผู้แปล / ในวันนั้นเขาแต่งหน้าอ่อนๆ)
—————————————————————————
MiA’s blog:
Good progress(=^・ω・^)ノNyaHa♡
วันนี้ผมก้าวหน้าไปอีกขั่นหนึ่ง (=^・ω・^)ノUisshaー!♡
ทำงานสำเร็จลงด้วยดี…
MiA ผมอยากเล่นดนตรีแล้ว o(TωT )Funyun.
ในการบันทึกเสียงครั้งหน้าผมคงต้องสั่งตัวแปลงไฟมาใหม่ กีต้าร์ของผมจะได้มีพาวเวอร์มากขึ้น (∩`ω)⊃≡⊃DouKuShi♡
ตอนนี้ผมกำลังพักเบรดพร้อมกับทานซุปข้าวโพดไปด้วยเสร็จแล้วก็จะกลับเข้าไปทำงาน
ผมลืมโพสสิ่งนี้!
————————————————————————
MiA’s blog:
Today also.
ก็ยังคงอยู่ด้านใน o(TωT ) Funyun.
ทุกๆ คนที่อยู่ในลิสต์ของผม อรุณสวัสดิ์นะครับ (=^・ω・^)ノ MiA♡
ผมตรวจดู MV เพลง DIE KUSSE ซึ่งจะจำหน่ายในเดือนหน้า แล้วก็ตรวจในส่วนของ Shinjuku BLAZE oneman live ซึ่งจะไปพร้อมกับ DIE KUSSEด้วย ♡
ยังไงก็ตามฉากที่ Tsuzukun ยื่นลิ้นออกมาเป็นฉากที่ผมชอบที่สุด(=^・ω・^)ノ NyaHa♡
ดังนั้น...ทุกๆ คนตั้งตารอกันให้ดีนะ!(∩`ω)⊃≡⊃DouKuShi♡
※ผมได้สิ่งนี้มา꒰๑´•.̫ • `๑꒱♡
English Translation by mejibray-translate
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
Tsuzuku’s tweet:
ตอนนี้ผมกำลังตรวจไลฟ์มูฟวี่อยู่ เวลาที่ดูด้วยความเร็วแบบดับเบิ้ลสปีด แล้วเห็นเพื่อนๆ ในวงกระโดดไปมานี่มันน่ารักจริงๆ
Tsuzuku’s tweet:
ด้วยความเร็วแบบดับเบิ้ลสปีด บางช่วงผมร้องเสียงเหมือนสุนัขเลย
English Translation by mejibray-translate
Thai Translation by Mejibray Thailand
------------------------
Koichi’s tweet:
{…ปีศาจน่ะ..ไม่เคยให้คำสัญญาหรอก
Koichi’s tweet:
{…เพราะว่าการทำอะไรที่เหมือนๆ กับคนอื่นน่ะ มันเป็นเรื่องดาดดื่น ดังนั้น...ผมก็เลยคิดถึงตัวเองที่มักจะทำอะไรไม่เหมือนคนอื่นๆ ว่าเป็นสัตว์ประหลาด
บางครั้ง...ผมก็คิดว่ามันดีแล้วที่เลือกจะเดินไปบนหนทางที่คุณต้องการ
English Translation by mejibray-translate
Thai Translation by Mejibray Thailand
Saturday, January 5, 2013
[Thai Trans] Rock and Read vol. 045 Tsuzuku [Mejibray] Interview
Rock and Read vol. 045 Tsuzuku [Mejibray] Interview
English Translation by http://hanakotobatranslations.blogspot.ie/2013/01/rock-and-read-vol-045-tsuzuku-mejibray.html#more
Thai Translation by Mejibray Thailand
ตั้งแต่พวกเขาก่อตั้งวงในปี 2011, Mejibray ก็สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอย่างต่อเนื่อง นักร้องนำ Tsuzuku ผู้ซึ่งดูเหมือนนักเลงที่ก้าวร้าวบนเวที
แต่ว่าเขาเป็นในสิ่งที่ตรงกันข้าม เขากลับมองว่าตัวเองเป็นผู้สารภาพบาป วันนี้เขาคุยกับเราอย่างเปิดอกถึงสิ่งที่เขาชอบและเรื่องราวถึงการก่อตั้งวงของเขาได้อย่างไรกับผู้อ่านทุกๆ คน
เราจะสอบถามเขาถึงก้าวย่างแห่งการเข้าสู่วงการ visual kei ทำไมเขาถึงอยากจะเป็นนักดนตรีและหนทางสู่การก่อตั้ง Mejibray อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
เขาบอกเล่ากับเราถึงโลกทัศน์และมุมมองต่อวงการ visual kei ในฐานะของนักดนตรีคนหนึ่งและบอกเล่าให้เราฟังถึงความใฝ่ฝันของเขาซึ่งไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
- แม่ของผมเคยพูดว่า "สักวันผมจะได้มาอยู่ใน Rock and Read (หัวเราะ) ผมก็เลยตัดสินใจว่าจะให้สัมภาษณ์กับพวกคุณตั้งแต่ตอนที่คุณยังไม่ได้ติดต่อผมไปซะอีกนะ (หัวเราะ)
คุณทำได้ดีกับคำสัญญาของคุณเองในการปรากฏตัวครั้งแรกในนิตยสารของเรา (หัวเราะ) รูปที่ใช้ประกอบการสัมภาษณ์ในวันนี้ถ่ายทำที่บ้านเกิดของคุณที่ Yokohama ใช่ไหม?
- ใช่ครับ ผมเกิดและเติบโตที่โยโกฮาม่า
ตอนเด็กๆ คุณเป็นยังไงหรือ?
- ผมมันเด็กดื้อที่ทุกคนต้องส่ายหน้า (หัวเราะแห้งๆ) ผมจะรู้สึกเหมือนว่าผมเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ตลอดเวลา จนกระทั้งในตอนนี้ผมยังคงชอบ Kamen Rider [1] อยู่เลยนะ
ผมชอบมากก็เหมือนๆ กับเด็กคนอื่นทั่วไปนั่นแหละ ผมมันเป็นเด็กเหลือขอที่คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งแล้วยังมีเรื่องต่อยตีหลายครั้งเลย ผมสามารถกระโดดใส่คู่ต่อสู้ของผมและสามารถน็อคเขาลงได้ด้วยหมัดเดียว
ผมเคยกระโดดลงมาจากที่สูงมากๆ แล้วก็ทำให้กระดูกของผมหัก (หัวเราะ)
หมายความว่าคุณชอบที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้องใช่ไหม?
- ใช่ครับ และนั่นเป็นจุดที่ทำให้ผมอยากเปลี่ยนตัวเองหรือเปล่านะ ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่อาจจะเป็นเพราะสิ่งนั่นแหละที่ทำให้ผมเริ่มที่จะแต่งหน้าและแต่งตัวอย่างในตอนนี้
งั้นคุณก็เป็นฮีโร่ในเวลาที่อยู่กับเพื่อนๆ?
- ใช่ครับ แต่ว่าคุณเคยได้ยินเสียงที่เหมือนกับเสียงยิงปืนไหม? นั่นล่ะ...มันสามารถทำให้ผมวิ่งหนีได้นะ แต่ตอนที่ผมเข้าเรียนประถม ผมก็ยังคงชอบอะไรแบบนั้นอยู่
แต่ก็มีอีกด้านหนึ่งนะอย่างเช่น ถ้าผมเห็นเพื่อนๆ ออกไปเล่นด้วยกัน ผมจะทำเหมือนว่าผมอยากจะไปกับพวกเขาด้วย แต่จริงๆ แล้วผมคิดว่าพวกเขาน่ะแข็งแกร่งกว่าผมไง
ดังนั้นผมจึงไม่ควรจะไปช่วยอะไรและผมก็เลยไม่ออกไปเล่นกับพวกเขา
ดังนั้นคุณก็เลยทำเหมือนกับว่าแขนคุณเจ็บหรืออะไรแบบนั้น?
- ใช่ครับ (หัวเราะ)! ใช่เลยแหละ ผมทำแบบนั้นจริงๆ แม้กระทั้งในตอนนี้ ในตอนนั้นเวลาที่ทุกๆ คนออกไปเล่นตอนช่วงพักเที่ยงที่โรงเรียน ผมคิดว่ามันดูเจ๋งกว่าตั้งเยอะ ถ้าผมอยู่ในห้องเรียนด้วยตัวคนเดียว
คุณนี่เหมือนหมาป่าที่โดดเดี่ยวนะ
- ใช่ฮะ แต่ทุกๆ คนก็คิดว่าผมเป็นหัวหน้าที่ดีเช่นกัน ผมน่ะได้รับการเลือกตั้งให้เป็นหัวหน้าของสภานักเรียนนะ
เป็นอะไรที่ surprise มาก!
- มันเป็นการลงคะแนนโดยการยกมือ เมื่อชื่อของผู้สมัครที่คุณชอบถูกประกาศ คุณก็ยกมือของคุณขึ้น
ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นคนในแบบที่เป็นที่รักของทุกๆ คนนะ ในตอนนั้นคุณชอบร้องเพลงแล้วหรือยัง?
- ไม่เลยครับ ตอนเด็กๆ ผมเกลียดมัน คุณแม่ผมต่างหากที่ชอบร้องเพลงและแม่ก็ร้องเพลงได้ดีมากๆ ตอนที่ผมเป็นเด็กแม่พาผมไปคาราโอเกะเพื่อจะร้องเพลงตรีมของ Kamen Rider
แม่ร้องจบและหลังจากนั้นแม่ก็บอกว่าแม่ร้องเพลงแย่แค่ไหน แต่ผมจำได้เสมอด้วยความรัก (หัวเราะ)
งั้นการฝึกซ้อมในชั่วโมงดนตรีและการขับร้องประสานเสียงก็เป็นเรื่องยากสำหรับคุณใช่ไหม?
- ผมไม่ได้เข้าร่วมการฝึกร้องประสานเสียงบ่อยๆ หรอก ผมก็แค่แหกปากร้องเพลงอย่างสุดเสียง ซึ่งจุดนี้ไม่มีใครอยากจะเลียนแบบหรอกนะ
และในชั่วโมงดนตรีพวกเราไม่ได้ทำอะไรมากมายเพราะเราเองก็มีการบ้านของตัวเองอยู่แล้ว ตอนปี 3 เพื่อนๆ ของผมเริ่มไปเที่ยวคาราโอเกะกัน พวกเขาชวนผมด้วยนะ แต่ผมก็ไปแค่สองครั้ง มันสนุกมากๆ เลย
ในตอนนั้นคุณร้องเพลงอะไร?
- ก็เพลงของ Kinki Kids และ Chemistry แต่เพื่อนๆ และผมเป็นแก็งค์ที่ส่งเสียงดังมากๆ ตลอดเวลา ซึ่งมันเป็นอะไรที่สนุกมากๆ พวกเราร้องตะโกนในเพลง “Mikan no uta” ของ Sex Machine Guns.
แล้วคุณเริ่มต้นฟังเพลงตั้งแต่ตอนไหน?
- ก็ย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่ผมชอบเหล่า superheroes นั่นแหละ เพราะมันทำให้ผมฟังเพลงอะนิเมะ อย่างเวลาที่พวกเราขับรถแบบเนี้ย ซีดีแผ่นแรกของผมเป็นตรีมซองค์ของ Eccentric Shounen Boy “Gottsuee Kanji”
ในตอนนั้นมันฮิตมากเลย และผมจำได้ว่าผมซื้อมันนะ แต่คิดว่าผมจะให้เพื่อนยื่มไปก็นะ..มันฮิตมาก (หัวเราะ) แต่เวลาที่ผมเริ่มต้นฟังเพลงมันกลายเป็นว่าสิ่งนี้เป็นเครื่องมือที่ทำให้ผมคุยกับเพื่อนมากขึ้น
แล้วตอนไหนที่ดนตรีเริ่มมีความหมายกับชีวิตคุณมากกว่าสิ่งอื่น?
- มันเกิดขึ้นตอนไฮสคูลตอนที่ผมเข้าไปสู่โลกของ visual keiผมกับเพื่อนจะนั่งอยู่ที่ด้านหลังของห้องเรียนในช่วงเวลาพักกลางวัน เขาเอาเครื่องเล่นซีดีของเขามาให้ผมแล้วก็เปิดเพลงดังสนั่น
เขาบอกผมว่านี่คือ visual keiผมได้ยินมันและต้องฟัง
ในตอนแรกคุณไม่ได้ชอบมันหรือ?
- คือ..ยังไงล่ะ ในตอนนั้นมีผู้ชายเยอะแยะที่ดูเหมือนผู้หญิง ถ้าดึงเอาเรื่องร้องเพลงออกไป ผมไม่ค่อยชอบมันสักเท่าไหร่ ในตอนนั้นผมฟัง Exile เช่นกันนะ
แต่เพื่อนของผมน่ะ เอา “butterfly” ของ Baroque มาให้ฟัง และหลังจากนั้นผมก็รู้ตัวว่าผมอยากจะเป็นนักดนตรี นี่เป็นจุดเริ่มต้นจริงๆ หลังจากที่โรงเรียนเลิก ผมก็ไปซื้อซีดี
หมายความว่าหลังจากนั้นคุณก็ตกลงไปอยู่ในโลกของเสียงดนตรี
- เพื่อนสมัยเด็กของเพื่อนผมเขาอยู่ในวง visual keiพวกเขามีแฟนๆ ของวงอยู่ประมาณ 20 คนได้ แต่..ผมก็คิดว่ามันเจ๋งจังเลย ผมยืนอยู่แถวหน้าในโรงเรียน ก็แล้วทำไมผมไม่ทำสิ่งนั้นที่ข้างนอกโรงเรียนด้วยล่ะ?
ผมได้ยินคนมากมายพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็ค้นพบว่าตำแหน่งนักร้องนำเป็นที่สุดของวงดนตรี ดังนั้น..ผมก็คิดถึงว่าผมควรจะปลุกเสียงกรีดร้องในตัวของผมให้ตื่นขึ้นเสียที
ผมขอยื่ม DVD ไลฟ์ของ Dir en grey ซึ่งนั่นเป็นการเปลี่ยนโลกของผมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
คุณเริ่มก่อตั้งวงเมื่อไหร่?
- ช่วงหลังจบไฮสคูลครับ ผมอยากมีงานทำ ดังนั้น...ผมก็เลยตั้งวงดนตรี ผมลาออกจากงานที่ครอบครัวอยากให้ผมทำหลังจากไปทำได้แค่สัปดาห์เดียวโดยที่ไม่ได้บอกพวกเขา (หัวเราะ)
ผมไปหาบริษัทจัดหาห้องเช่าและก็ได้ห้องพักเล็กๆ มาห้องหนึ่ง หลังจากนั้นผมก็ไปบอกครอบครัวให้เขามาเซ็นต์รับรองให้ผมหน่อย
มันฉุกละหุกมากเลยใช่ไหม?
- ผมคิดนะ ว่าสิ่งที่ผมทำมันไม่เหมาะสมมากๆ แต่ผมก็คิดว่าถ้าผมออกจากบ้านแม่มาผมจะสามารถตั้งวงได้ ผมไปโตเกียวด้วยเสื้อผ้าที่ติดตัวอยู่และนั่นล่ะ...ที่มันเปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตผม!
แต่ผมก็ระวังนะ (ยิ้ม) ไลฟ์ของวงที่เจ๋งที่สุดกำลังรออยู่ ผมคิดว่ามันคงจะเป็นไลฟ์ที่เจ๋งมาก แต่...ผมไม่มีเงิน ไม่มีอาหารและไม่มีสมาชิกในวง (ยิ้มแห้ง) ผมก็ยังทำอะไรไม่ได้
นานไหมที่เป็นอยู่แบบนั้น?
- ไม่นานครับ ประมาณ 6 เดือนหลังจากที่ผมออกจากบ้านมา ผมก็เริ่มก่อตั้งวง ในเดือนหนึ่งพวกเรามีไลฟ์ประมาณ 4 ครั้ง ผมเป็นคนเดียวที่ทำทุกอย่างและพวกเขาไม่ทำอะไรเลยทั้งวัน
หลังจากนั้น 3 เดือน พวกเราก็ยุบวง มือกลองบอกกับผมว่าเขาไม่สามารถทนผมได้
วงนั้นมีอะไรคล้ายกับ Mejibray บ้างไหม?
- ไม่เลยครับ นั่นเป็นวงสายฟ้าแลบ (หัวเราะ) คือ...ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ Decora กำลังฮิต ผมก็เลยทำสีผมของผมโดยย้อมด้านหนึ่งเป็นสีม่วง ผมอยากจะดูเหมือนวง Baroque
ตอนนั้นคุณแต่งเพลงด้วยหรือเปล่า?
- ไม่ครับ ผมยังไม่ได้แต่งเพลง ผมเล่นดนตรีไม่ได้สักชิ้น ในตอนนี้ผมจริงจังกับการแต่งเพลงมาก แต่ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่วงเก่าของผมแยกวงผมยังมีประสบการณ์น้อยอยู่ แต่ผมก็เขียนเนื้อเพลงนะ
ในโรงเรียนผมชอบวิชาการเขียนนะ ตอนเรียกประถมผมได้รับประกาศนียบัตรสำหรับการเขียนด้วยนะ และงานของผมก็ได้รับเลือกให้ตีพิมพ์ลงในหนังสือรวมบทกวีจากเด็กๆ ในเมืองที่ผมอาศัยอยู่
เด็กคนอื่นๆ เขียนในแบบของ fan letterเรื่องราวที่เขียนก็ประมาณความเมตตาจากหัวใจ ซึ่ง..นั่นเป็นตรีมของหนังสือ (หัวเราะ) ผมคิดว่าผมมีความสามารถทางด้านการเขียนบทกวีนะ
คุณก็ต้องมีความสามารถทางด้านนั้นสิ ไม่งั้นคุณจะชนะหรือ (หัวเราะ) แล้วคุณเขียนเกี่ยวกับอะไร?
- มีชื่อว่า “Manekko” ผมมีน้องชายห่างๆ ที่เกิดหลังผมไม่นาน ผมอ่านหนังสือและเขาเองก็มีหนังสือเล่มเดียวกัน มันเหมือนกับว่า...เราสองคนอ่านหนังสือนั้นด้วยกัน
เนื้อเพลงที่คุณเขียนในตอนนี้ก็ยังไม่ใกล้เคียงอะไรที่ทำให้อบอุ่นหัวใจ (หัวเราะ)
- ไม่...มันไม่ใช่เลย (หัวเราะ).
แต่ยังไงก็ตามเถอะ ทำไมคุณไม่ออกมาจากความวูปวาบแล้วตั้งใจทำอะไรที่ใคร่ครวญมากขึ้น มีทิศทาง มีความตั้งใจในงานดนตรีของคุณล่ะ?
- ผมช็อคนะตอนที่วงดนตรีวงแรกในชีวิตของผมต้องยุบวงไป มันเหมือนว่าผมมีชีวิตอยู่บนเปลือกของขนมปัง และชีวิตก็เป็นเรื่องยาก แต่เมื่อผมยืนอยู่บนเวที...ผมสามารถยิ้มออกมาได้
มันมีความแตกต่างระหว่างพวกเราและคนที่เข้ามาดูพวกเรา แต่กระนั้นเถอะ...พวกเราไม่มีหวังหรอก...จริงๆ นะ
ประสบการณ์ที่คุณลงไปถึงจุดที่ต่ำสุดแบบนั้นมีอิทธิพลต่อการเขียนเพลงของคุณไหม?
- ผมคิดอย่างนั้นนะ
เพลงทั้งหมดของคุณมีพื้นฐานมาจากประสบการณ์จริงอย่างนั้นสิ?
- มากกว่า 90% มาจากประสบการณ์จริงครับ
แม้กระทั้ง Itsuwari no Kamen - Jisatsu no Uta?
- นั่นเพลงของผมนะ มันเกี่ยวกับผมที่ถูกสอนอยู่ตลอดเวลาถึงสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญ เพลงนี้เกี่ยวช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิตของผม
นั่นเป็นสิ่งที่คุณคิดตอนที่คุณย้ายกลับไปอยู่กับแม่ใช่ไหม?
- ผมไม่สามารถคิดถึงเรื่องที่จะกลับไปอยู่บ้านได้แม้กระทั้งในตอนนี้ อาจเป็นแบบผมออกไปข้างนอกและผมแวะไปเยี่ยมสักแป๊บ แต่ถ้าย้ายกลับไปเลย อาศัยอยู่กับครอบครัวอีกครั้งและหางานทำ มันยากมากที่จะทำ
แต่ก็มีบางอย่างสิ่งที่ผมจะต้องบอกกับแม่ให้ได้ ดังนั้นผมจะลืมเรื่องทั้งหมด ดูนะ...แม่ของผมเป็นซิงเกิ้ลมัมนะ ตั้งแต่ผมโตขึ้นมาและวิ่งเล่นไปทั่วครัว ผมบอกเธอว่าเมื่อผมโตขึ้นผมจะดูแลแม่เอง
ดังนั้น...ผมก็ไม่รู้จะสู้หน้าแม่ยังไง เพราะความยุ่งยากในการต้องย้ายกลับ และก็อายด้วยที่ทุกอย่างผมมันออกมาแตกต่างกับที่คิดไว้ นั่นล่ะ...สิ่งที่ผมรู้สึกในตอนนั้น ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากตายซะ
เพราะประสบการณ์ตรงนี้ ทำให้การมองโลกของคุณเปลี่ยนไปและทำให้เราเห็น Mejibray ที่เป็นแบบนี้ใช่ไหม?
- ใช่ครับ แต่ว่าตอนที่วงก่อนหน้าจะมาเป็น Mejibray ยุบวงไป ผมคิดว่า...ผมจะเลิกเล่นดนตรีนะ มันเป็นทั้งหมดหรือว่า..มันไม่เคยมีอะไรเลย ดังนั้น...ก็ไปทำอะไรอย่างที่คนธรรมดาๆ เขาทำกัน
ผมไปทำงานพิเศษเป็นเด็กเสริฟในร้านอาหารเกือบๆ ปี แต่ทุกๆ วันมันน่าเบื่อมาก หลังจากนั้นสักพักผมคิดถึงเรื่องการทำวงเฉพาะกิจ ผมคิดว่ามันคงจะดี แต่มันไม่เคยเกิดขึ้น
ผมรู้...ผมไม่สามารถรับได้หรอกแค่นั้นน่ะ แต่ผมก็บอกตัวเองว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายและผมเลือกที่จะเสี่ยง ผมอยากทำเพลงเพื่อความสำเร็จของผม ถ้าหากผมจะเอาอนาคตของผมไปเสี่ยง
อย่างที่ผมทำกับวงก่อนหน้านี้ อย่างน้อยผมก็จะเลือกสมาชิกในวงด้วยตัวผมเอง จะต้องเป็นผมที่อยู่ตรงนั้น เพลงที่จะเผยความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา
อาจจะเป็นเรื่องที่น่าอายมากๆ ผมจะเขียนเกี่ยวกับชีวิตของผมเองลงในบทเพลงของผม
และการตัดสินใจนั้นที่ทำให้เกิด Mejibray หลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมดนี้ มันช่วยไม่ได้นะ แต่...มันทำให้ผมรู้สึกว่าจริงๆ แล้วคุณเป็นคนที่มองโลกแง่ดีนะ
- ใช่ครับ ผมเป็นคนมองโลกแง่บวกนะ (หัวเราะ) วิธีที่ร้องเพลงที่ดีที่สุดคือ...การยิ้ม
ตัดสินได้โดยมุมมองของคุณเองในเนื้อเพลงที่คุณเขียน มันดูเหมือนคุณมีความปรารถนาอันแรงกล้าในการทำลายล้าง
- ถ้าผมสามารถทำได้...ผมอยากมีชีวิตบนรอยยิ้มนะ การได้ทำในสิ่งที่ผมรักทุกวันและกินอาหารอร่อยๆ ผมอยากมีชีวิตแบบนั้น แต่ก็แน่นอนล่ะ มันจะมีบางสิ่งที่ดึงคุณกลับไปทำสิ่งเหล่านั้นเสมอๆ
นั่นเป็นสิ่งที่ผมเห็นมา สิ่งที่ไม่ดีจะสามารถค่อยๆ เติบใหญ่ได้ ในยามที่ทุกคนรู้สึกเศร้า พวกเขาจะรู้สึกว่าเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ผมคิดถึงช่วงเวลายากๆ เหล่านี้แล้วใส่ประสบการณ์ของผมลงไปในตัวหนังสือ
ผมเป็นคนที่ผ่านมันมาและคิดว่า "ก็ดี..ที่มันเกิดขึ้น แต่ผมจะทำให้ดีที่สุดและสู้ต่อไป" นั่นเป็นวิธีที่ผมอยากจะทำเพลง
คุณก็เลยต่อสู้กับความจริงในบทเพลงของคุณ อือม...คุณเคยพูดว่าคุณรัก visual kei แน่นอน ทุกคนที่พูดก็คิดแบบนั้น แต่ว่ามีหลายคนที่เล่าอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้?
- Hahahahaha.
คุณไม่คิดอย่างนั้นหรือ?
- ใช่...ผมคิด ถ้าผมชอบอะไรอย่างสัก ผมจะพูดมันออกมา ผมก็มีช่วงเวลาที่ผมคิดว่ามันน่าอายเหมือนกันนะ
คุณคิดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
- ก็อย่างเช่นตอนที่ผมก่อตั้งวงด้วยตัวคนเดียวนั่นแหละ มันเหมือนกับว่า...ยกตัวอย่างเช่น ผมคิดว่าการได้ลงนิตยสารที่เป็นที่นิยมอย่าง Rock and Read!ผมรู้มาตลอด ผมจะถูกถามเกี่ยวกับวงที่ผมชอบ
และผมเติบโตมาแบบไหน (หัวเราะ) การพูดในฐานะของคนที่ทำงานดนตรีกับคนที่ฟังมัน ความภาคภูมิใจเป็นอุปสรรคนะ ผมเป็นใครที่จะมาพูดว่าเพลงของผมมันเยี่ยมที่สุดและซื้อซีดีของผมนะ?
ผมเป็นคนที่จะพูดว่า "ผมซื้อซีดีของ the Gazette และมันเจ๋งมาก! พวกคุณควรจะซื้อมันนะ! ผมอยากแนะนำดนตรีดีๆ ให้พวกคุณรู้จัก ผมเป็นแฟนของวงที่กำลังแสดงอยู่บนเวที" (หัวเราะ)
คุณมีสัญชาตญาณที่เยี่ยมกว่าสิ่งที่คนฟังชอบ
- ยามที่ผมได้แนะนำแฟนๆ เกี่ยวกับวงที่ผมชอบ แล้วแฟนๆ ก็แนะนำวงดนตรีที่พวกเขาชอบให้กับรู้จัก ฐานของผู้ฟังจะขยายใหญ่ขึ้นนะ ผมคิดว่ามันเจ๋งมากๆ และผมอยากจะได้ผลตอบแทนจากตรงนั้นเช่นกัน
ถ้าผมใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ผมรู้เลย...ว่าผมจะไม่สามารถเขียนเพลงดีๆ ได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมจึงต้องการการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้อื่น
แต่ถ้าคุณเขียนเพลงแบบนั้น จะไม่มีคนพูดหรือว่า "โอ้...เพลงออกมาคล้ายกับวงนั้นวงนี้"?
- มันแตกต่าง เพราะไม่สามารถดึงเอาความรู้สึกของอีกเพลงใส่ลงไปได้หรอก นั่นแหละ...ผมจึงชอบพวกเขา (หัวเราะ) แน่นอน...มันจะมีส่วนที่คล้ายกันบ้างอย่างชัดเจน ถ้าคุณฟังเพลง คุณจะได้รับอิทธิพลจากมัน
เวลาที่ผมเขียนเพลง ผมจะตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าสิ่งที่ผมเขียนจะไม่ไปเหมือนกับเพลงของคนอื่น ผมเป็นนักดนตรี ผมจะไม่มีวันทำอย่างนั้น (Admin-A / Tsuzuku หมายถึง การลอกหรือก๊อบปี้เพลง)
คุณคิดว่าคนที่พยายามจะลอกงานของคนอื่นนั้นไม่ดี?
- ใช่ แต่ว่ามันต่างกันนะ การลอกงานของคนอื่น! มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง (ยิ้ม) ช่วงมัธยมและไฮสคูลผมเรียนเคนโด้ และสมาคมที่ผมเรียนอยู่จะมีการฝึกซ้อม ผมเรียนรู้เทคนิคต่างๆ จากการฝึกซ้อม
ทุกคนไม่มีใครคิดหรอกว่านั่นจะไม่เปลี่ยน มีการสอนมากมายตลอดเวลาที่ฝึกซ้อม นั่นล่ะ...ที่เป็นชัยชนะอย่างแท้จริงๆ
เจ๋งมาก! ดังนั้นจากการกลั่นกรองของคุณเอง ทำให้คุณแน่ใจว่าคุณไม่ได้ตัดอะไรออกไป โอเค..ดังนั้นตอนนี้ภาพลักษณ์ของ visual kei เป็นอย่างไรในความคิดของคุณ?
- ผมคิดว่า...แต่ก่อนแฟนจะอ่อนโยนและหลายๆ สิ่งจะดูผ่อนคลายกว่านี้ ในตอนนี้บรรยากาศมันไม่ค่อยดีอีกต่อไป มันเหมือนกับว่าลักษณะบางอย่างของแฟนๆ ที่จะพูดว่า เกลียดจอห์นนี่ย์กรุ๊ปมากแค่ไหน
หรืออะไรอย่างอื่นที่นอกเหนือจากวงที่พวกเขาชอบจะทำให้พวกเขาคลื่นไส้ ใช่ visual keiแน่ๆ หรือที่ทำให้เกิดผู้ต่อต้านขนาดนั้น?
คนอื่นคิดว่า ikemen จริงใจและอบอุ่นหัวใจเหมือนๆ กันหมด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่แต่งหน้าจนดูเหมือนกันจะเหมือนกัน คนบางคนก็มีด้านมืดที่น่ากลัว (หัวเราะ)
แต่ผมเป็น gya-oh ผมชอบ Johnny's ถ้าแฟนไม่ฟังเพลงของพวกเขา พวกเขาก็ไม่มีวันไปไกลจนสุดขอบฟ้าได้
ดังนั้นเมื่อแฟนๆ ของคุณมีระบบความคิดที่ถูกต้อง คุณจะไปถึงวันที่ประสบความสำเร็จได้ คุณคิดอย่างไรกับระบบความคิดนั้น? Mejibray คงไม่สามารถเลี่ยงได้และยังคงต้องไปต่อ
- ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกันนะ (หัวเราะ) ผมมีความเห็นเช่นเดียวกันกับเรื่องนี้ ผมชอบ the Gazette และได้ดูพวกเขาแสดงที่ Shibuya AX สำหรับผมการได้ขึ้นเล่นที่ไหนสักแห่ง
อย่างเช่น Budoukan ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวนิดๆ แต่ไม่ใช่ว่าถูกแยกออกจากกันนะ เพียงแค่ดูเหมือนว่าจะเชียร์ค่อนข้างยาก ในความเป็นจริง ผมชอบที่จะเชียร์และให้กำลังใจนะ
แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเหตุผลที่ดีหรือเปล่า
โอ้...ถูกต้องเลย Mejibray มีแฟนๆ ที่เป็นผู้ชายด้วย แน่นอนคุณมีแฟนๆ ผู้หญิงเช่นกัน แต่การมีทั้งสองเพศสนับสนุนคุณ มันเป็นอะไรที่ภาคภูมิใจมากสำหรับวงดนตรีนะ
- ใช่...นั่นทำให้ผมมีความสุขมากๆ
มองย้อนกลับไปในวันที่คุณยังเด็ก อะไรที่คุณอยากบอกกับเด็กๆ ที่อยากเข้ามาสู่วงการ visual kei เหมือนอย่างคุณบ้าง?
- มีมืออาชีพมากมายที่เริ่มต้นเล่นดนตรีตั้งแต่ยังเรียนมัธยมหรือไฮสคูล ส่วนผมไม่มีประสบการณ์ตรงนั้น แต่ผมอยากตั้งวงดนตรีผมก็ตั้ง แต่มีอะไรบางอย่างที่ผมอยากบอกเด็กๆ ที่อยากเข้ามายืนตรงนี้
มีอย่างหนึ่งที่ผมอยากบอกพวกเขา ผมไม่อยากให้ใครต้องเจ็บปวดเหมือนที่ผมเคยเป็น ตอนนี้...ทุกๆ วันเป็นวันที่ดี ผมมีเพื่อนๆ ในวงและคนอื่นๆ ที่คอยสนับสนุนผม
มันเจ็บปวดมากที่ต้องอยู่อย่างหิวโหยและแม้กระทั้งว่ามีใครสักคนบอกว่ามันไม่ใช่ แต่จริงๆ แล้วมันใช่ จะมีช่วงเวลาที่คุณไม่มีไลฟ์จะเล่น แม้กระทั้งตอนที่คุณไม่มีอะไรจะกิน
จำไว้ว่าคุณยังมีเพลงที่จะร้อง (หัวเราะ) ผมผ่านมันมาแล้วและตอนนี้ผมอยู่ตรงนี้ เพื่อที่จะบอกในสิ่งเดียวกันกับทุกๆ คนที่อยากจะเล่นดนตรีเหมือนกัน
แต่คุณมีความสนใจและสิ่งนั่นที่ทำให้คุณสามารถก้าวเดินต่อไปและมีความสุขกับสิ่งที่คุณหวัง
- ใช่ครับ ผมอยากจะอยู่ในวงดนตรีที่ทำเพลงออกมาแล้วใครๆ ก็อยากจะซื้อผลงาน นั่นเป็นความคิดที่ดี ตอนที่ผมอยู่ในความหวังอย่างที่สุด ไฟฟ้าที่บ้านถูกตัด (ยิ้ม) ในตอนนั้นผมทำงานตอนกลางคืน
กลับมาถึงบ้านในตอนเช้าแล้วก็นอนหลับ พอตื่นขึ้นมาโทรศัพท์ของแบตหมดไปแล้วทั้งๆ ที่ผมเสียบปลั๊กชาร์ตไว้ มันแย่มากนะที่ไฟฟ้าถูกตัดและผมจำได้ว่าผมหมดหนทางจริงๆ
แต่ผมก็ไปอาบน้ำแล้วก็นึกถึงว่าแล้วผมจะรีบไปทำงาน แต่ว่าไฟฟ้าโดนตัดดังนั้นก็ไม่มีน้ำร้อนให้อาบเช่นกัน ผมก็เลยต้องสระผมในอ่างล้านจานแล้วก็ใช้ไดร์เป่าผมไม่ได้ด้วย (หัวเราะ)
ผมไม่มีทางเลือกแต่ต้องรีบไปทำงานทั้งๆ ที่ผ้าขนหนูยังพันอยู่บนหัว
มันคงจะยากมากเลยสินะ (ยิ้มแห้งๆ) แต่คนที่พูดว่า พวกเขาจะดูแลตัวเองและสามารถทำได้ก็เป็นอะไรที่วิเศษนะ
- ไม่...แต่มันเป็นความจริง
ตอนที่คุณอยู่ในช่วงเวลานั้นคุณก็ไม่ได้สิ้นหวังใช่ไหม?
- ผมไม่สามารถทำได้ (หัวเราะ) ถ้าตอนนั้นผมชอบคอสเพลย์ ผมคงเห็นตัวเองกำลังเล่นเป็นผู้ชายที่กระโดดเข้ามา ผมบอกตัวเอง ผมต้องสู้ต่อไปและผมก็ทำ ผมอยากให้มีคนมากขึ้นมากขึ้นมาชมโลกของวิชวล ไม่ใช่แค่คนที่จะซื้อแค่ซีดีของ Mejibray
ฟังแล้วดูดีมากๆ
- ผมไม่อยากเป็นคนเจ้าอารมณ์ และแน่นอน...ผมไม่อยากให้คู่แข่งของผมประสบความสำเร็จในช่วงเวลานี้ แต่ที่ผ่านมาผมมองว่า ถ้าเราสามารถเติบโตไปพร้อมๆ กัน
จะมีคนที่คิดว่าวงดนตรีวงอื่นนั่นมันแย่และพวกเขาสมควรแยกวง แต่ไม่มีใครมีสิทธิ์คิดอย่างนั้นหรอกนะ ไม่ใช่ว่าวงวิชวลทุกวงมองหาในสิ่งเดียวกันหรอกหรือ?
ไม่ใช่ว่ามีผู้คนบนโลกนี้ที่ยังไม่เคยได้ยินแม้แต่คำว่า visual kei? แต่วงการนี้กำลังร้อนแรงเพราะว่ากำลังเติบโตและเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมอยากให้วงของผมสามารถที่จะช่วยเหลือวงอื่นๆ สร้างงานเพลงที่ดีๆ เท่าที่พวกเราจะสามารถทำได้
คุณจะให้ความสำคัญกับวงก่อนที่จะเป็นตัวคุณงั้นหรือ?
- แน่นอน คุณสามารถเดินต่อไปในโลกของ visual keiโดยที่ไม่ต้องสูญเสียอะไรไปเลย ผมต้องการที่จะก้าวเดินต่อไปสู่อนาคตที่ดี
T/N
[1] http://en.wikipedia.org/wiki/Kamen_Rider
Special Thank: http://hanakotobatranslations.blogspot.ie
Photo credit : http://ayaheartsuruha.tumblr.com/
Subscribe to:
Posts (Atom)